หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2555

ข้อสอบการจัดการ

วิชา หลักการจัดการ


ชุดที่ 1
1. ข้อใดเป็นบทบาทด้านการสื่อสารของนักบริหารหรือผู้จัดการ

ก. บทบาทในฐานะผู้ตัดสินใจ

ข. บทบาทในฐานะโฆษก

ค. บทบาทในฐานะผู้กำหนดนโยบาย

ง. บทบาทในฐานะผู้วางแผน

2. ทักษะในข้อใดที่ผู้บริหารระดับสูงจะต้องมี

ก. ความรู้ ข. เทคโนโลยี

ค. ความคิด ง. ความทันสมัย

3. ผู้บริหารในระดับใดมีหน้าที่ควบคุมเป้าหมาย แผนงาน และผลสำเร็จของงานที่สำคัญ

ก. ผู้บริหารระดับสูง ข. ผู้บริหารระดับกลาง

ค. ผู้บริหารระดับต้น ง. ผู้บริหารระดับต่ำ

4. นายสมบัติ รักดี ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการกองการเจ้าหน้าที่ สำนักงานคณะกรรมการ

การอาชีวศึกษา ในทางการบริหารถือว่าเป็นผู้บริหารในระดับใด

ก. ผู้บริหารระดับสูง ข. ผู้บริหารระดับกลาง

ค. ผู้บริหารระดับต้น ง. ผู้บริหารระดับต่ำ

5. ผู้บริหารในระดับใดทำหน้าที่ในการแปลแผนหลักหรือนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ

ก. ผู้บริหารระดับสูง ข. ผู้บริหารระดับกลาง

ค. ผู้บริหารระดับต้น ง. ผู้บริหารระดับต่ำ

6. เพราะสาเหตุในข้อใดที่ทำให้การจัดการช่วยทำให้พนักงานมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ก. ช่วยสร้างขวัญและกำลังใจ ข. ทำให้เกิดระบบการทำงานที่ดี

ค. มีการใช้ทรัพยากรบุคคลอย่างคุ้มค่า ง. เกิดภาวะการจ้างงานเพิ่มมากขึ้น

7. ข้อใดถือว่าเป็นความสำคัญที่สุดของการจัดการ

ก. เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า

ข. ทำให้เกิดการจ้างงาน

ค. องค์การบรรลุวัตถุประสงค์ในการจัดตั้ง

ง. ได้รับคำนิยมชมชอบจากประชาชน

8. ผู้จัดการหรือนักบริหารในระดับใดที่ต้องใช้ทักษะในการสื่อสารมากที่สุด

ก. นักบริหารระดับสูง ข. นักบริหารระดับกลาง

ค. นักบริหารระดับต้น ง. นักบริหารทุกระดับใช้เท่ากัน

9. ข้อใดเป็นองค์กรของรัฐ

ก. กระทรวงศึกษาธิการ โรงพยาบาลยันฮี

ข. กระทรวงมหาดไทย มหาวิทยาลัยเกริก

ค. กรมวิชาการ วิทยาลัยบริหารธุรกิจและการท่องเที่ยวกรุงเทพ

ง. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มูลนิธิสายใจไทย

10. ข้อใดอธิบายความหมายของ “องค์กร” ได้ชัดเจนที่สุด

ก. ส่วนประกอบใหญ่ของหน่วยงานย่อย

ข. ส่วนประกอบย่อยของหน่วยงานใหญ่

ค. ส่วนประกอบของกิจกรรม

ง. ส่วนประกอบของการทำงาน

11. องค์กรของรัฐเกิดขึ้นได้จากกฎหมายประเภทใด

ก. ประมวลกฎหมายอาญา ข. ประมวลกฎหมายแพ่ง

ค. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ง. กฎหมายระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน

12. มูลนิธิร่วมกตัญญูเป็นองค์กรประเภทใด

ก. องค์กรของรัฐ ข. องค์กรธุรกิจ

ค. องค์กรรัฐวิสาหกิจ ง. องค์การอาสาสมัคร

13. กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเอกชนมีชื่อเรียกว่าอะไร

ก. ประมวลกฎหมายอาญา

ข. ประมวลกฎหมายแพ่ง

ค. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

ง. กฎหมายระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน
14. ธุรกิจประเภทใดพบเห็นได้มากที่สุดในประเทศไทย

ก. ธุรกิจเจ้าของคนเดียว ข. ห้างหุ้นส่วน

ค. บริษัทจำกัด ง. บริษัทมหาชนจำกัด

15. หากจะประกอบธุรกิจขนาดเล็ก เครือข่ายของงานไม่มากและไม่ซับซ้อน ควรจัดสำนักงานในรูปแบบใดจึงจะเหมาะสมที่สุด

ก. Centralized Office ข. Departmentalized Office

ค. Combined Office ง. Mixed Office

16. หากองค์กรธุรกิจมีขนาดใหญ่หรือมีลักษณะเป็นส่วนราชการควรจัดสำนักงานในลักษณะใด

ก. Centralized Office ข. Departmentalized Office

ค. Combined Office ง. Mixed Office

17. จุดเด่นของแนวคิดการจัดการเชิงวิทยาศาสตร์คืออะไร

ก. การกำหนดสายการบังคับบัญชา

ข. การจัดการโดยคำนึงถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

ค. การเน้นประสิทธิภาพในการผลิต

ง. การเน้นความเสมอภาคในการปฏิบัติงาน

18. แนวความคิดการจัดการในข้อใดที่เน้นการออกแบบงานและมาตรฐานการผลิต

ก. การบริหารเชิงพฤติกรรม ข. การบริหารแนววิทยาการจัดการ

ค. การบริหารแนวบริหารศาสตร์ ง. การบริหารเชิงวิทยาศาสตร์

19. นักวิชาการผู้ใดที่มีแนวความคิดซึ่งให้ความสำคัญกับบทบาทหน้าที่ของผู้จัดการ

ก. เอลตัน เมโย ข. แมกซ์ เวเบอร์

ค. เฮอร์เบิร์ต ไซมอน ง. เชสเตอร์ ไอ. บาร์นาร์ด

20. กลุ่มแนวคิดใดที่นำเอาศาสตร์หลายๆ แขนงมาใช้ในการจัดการ

ก. พฤติกรรมมนุษย์ ข. ระบบราชการ

ค. วิทยาการจัดการ ง. การบริหารศาสตร์

21. แนวคิดของกลุ่มใดที่เห็นว่าการจ้างงานเป็นเรื่องของงานอาชีพ มีความมั่นคง

ก. แนวคิดเชิงสถานการณ์ ข. แนวคิดเชิงระบบ

ค. แนวคิดระบบราชการ ง. แนวคิดพฤติกรรมศาสตร์

22. ใครคือผู้ที่คิดค้นแนวคิดการจัดการแบบระบบราชการ

ก. เฮอร์เบิร์ต ไซมอน ข. แมกซ์ เวเบอร์

ค. เอลตัน เมโย ง. ลิลเลียน เอม. กิลเบรธ
23. ข้อใดเป็นแนวคิดของกลุ่มการจัดการสมัยใหม่

ก. การจัดการเชิงวิทยาศาสตร์ ข. วิทยาการจัดการ

ค. จิตวิทยาอุตสาหกรรม ง. ระบบราชการ

24. แนวคิดในกลุ่มใดที่ให้ความสำคัญกับคนมากขึ้น

ก. กลุ่มคลาสสิก ข. กลุ่มพฤติกรรมมนุษย์

ค. กลุ่มการจัดการสมัยใหม่ ง. กลุ่มการจัดการที่เป็นระบบ

25. “หุ้นส่วนผู้จัดการ” หมายถึงผู้ใด

ก. หุ้นส่วนผู้ใดผู้หนึ่ง

ข. หุ้นส่วนที่ไม่จำกัดความรับผิดชอบ

ค. หุ้นส่วนที่จำกัดความรับผิดชอบ

ง. หุ้นส่วนที่ถือหุ้นมากที่สุด

26. รูปแบบการประกอบธุรกิจรูปแบบใดที่มีผู้ประกอบการมากที่สุดในประเทศไทย

ก. ธุรกิจเจ้าของคนเดียว ข. ห้างหุ้นส่วน

ค. บริษัท ง. กิจการร่วมค้า

27. ห้างหุ้นส่วนจำกัด คำว่า “จำกัด” มีความหมายตรงกับข้อใด

ก. จำกัดจำนวนผู้ถือหุ้น

ข. จำกัดจำนวนเงินที่ใช้ในการลงทุน

ค. จำกัดความรับผิดชอบในหนี้สินที่ลงทุน

ง. จำกัดจำนวนเงินปันผลที่จะมอบให้กับผู้ร่วมลงทุน

28. ห้างหุ้นส่วนในข้อใดมีลักษณะของการเป็นบุคคลธรรมดา

ก. ห้างหุ้นส่วนสามัญ ข. ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล

ค. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ง. ห้างหุ้นส่วนจำกัดนิติบุคคล

29. ร้านขายหนังสือถือเป็นรูปแบบร้านค้าประเภทใด

ก. ร้านสินค้าสะดวกซื้อ ข. ร้านโชห่วย

ค. ร้านเฉพาะอย่าง ง. ร้านที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

30. ข้อใดอธิบายความหมายของ “กิจการร่วมค้า” ได้ชัดเจนที่สุด

ก. ความร่วมมือระหว่างเอกชนกับเอกชน

ข. ความร่วมมือระหว่างรัฐกับเอกชน

ค. ความร่วมมือระหว่างรัฐกับรัฐ

ง. ความร่วมมือระหว่างเอกชนกับรัฐวิสาหกิจ
31. สิ่งที่ต้องระมัดระวังมากที่สุดในการประกอบธุรกิจในลักษณะ “ห้างหุ้นส่วน” คือข้อใด

ก. จำนวนเงินทุนที่จะนำมาลงทุน ข. ความซื่อสัตย์ของผู้ร่วมหุ้น

ค. การเปลี่ยนแปลงทางการเงิน ง. ความรู้ความสามารถของหุ้นส่วน

32. ห้างหุ้นส่วนแห่งหนึ่งตั้งชื่อตัวเองว่า “เจริญทรัพย์” แสดงให้เห็นว่าเป็นห้างหุ้นส่วนประเภทใด

ก. ห้างหุ้นส่วนสามัญ ข. ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล

ค. ห้างหุ้นส่วนจำกัด ง. ห้างหุ้นส่วนจำกัดนิติบุคคล

33. กระบวนการจัดการกระบวนการใดที่ต้องดำเนินการเป็นลำดับแรก

ก. การวางแผน ข. การจัดองค์การ

ค. การอำนวยการ ง. การงบประมาณ

34. กระบวนการจัดการแบบ POSDCoRB เป็นผลงานของนักวิชาการท่านใด

ก. กูลิกและเออร์วิก ข. เออร์เนส เดล

ค. เอลตัน เมโย ง. แฮร์โรลด์ คูนตซ์

35. การแบ่งแผนกงานย่อย การจัดสายงาน เป็นขั้นตอนใดในการจัดการ

ก. การวางแผน ข. การจัดการบุคคล

ค. การจัดองค์การ ง. การประสานงาน

36. การเป็นตัวแทนขององค์การมีความหมายตรงกับข้อใด

ก. Planning ข. Controlling

ค. Organizing ง. Representation

37. กระบวนการบริหารที่มีชื่อย่อๆ ว่า POSDCIR เป็นแนวความคิดของผู้ใด

ก. กูลิกและเออร์วิก ข. เออร์เนส เดล

ค. เอลตัน เมโย ง. แฮร์โรลด์ คูนตซ์

38. ใครคือผู้ที่คิดค้นกระบวนการจัดการที่มีชื่อย่อๆ ว่า POCCC

ก. กูลิกและเออร์วิก ข. เออร์เนส เดล

ค. เอลตัน เมโย ง. แฮร์โรลด์ คูนตซ์

39. การจัดการบุคคลมีความหมายตรงกับข้อใด

ก. Budgeting ข. Organizing

ค. Staffing ง. Innovation

40. Innovation หมายถึงขั้นตอนใดในการจัดการ

ก. การอำนวยการ ข. การสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ

ค. การกำหนดงบประมาณ ง. การรายงานผลการปฏิบัติงาน
41. Master Plan มีความหมายตรงกับข้อใด

ก. แผนแม่บท ข. แผนปฏิบัติการ

ค. แผนเฉพาะกิจ ง. แผนงานโครงการ

42. ข้อใดคือการแบ่งประเภทของแผนตามหลักเศรษฐศาสตร์

ก. แผนมหภาค ข. แผนระยะปานกลาง

ค. แผนพัฒนาภาค ง. แผนระดับกระทรวง

43. แผนระยะยาวมากเหมาะกับการจัดทำแผนประเภทใด

ก. แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

ข. แผนทางการทหาร

ค. แผนการตลาด

ง. แผนการพัฒนาเศรษฐกิจ

44. ข้อใดคือข้อได้เปรียบของแผนระยะยาว

ก. มองอนาคตได้กว้างไกล ข. มีความยืดหยุ่นสูง

ค. มีความเป็นไปได้สูง ง. สามารถปฏิบัติได้ง่าย

45. ขั้นตอนในการจัดทำแผนข้อใดที่มีการควบคุมการปฏิบัติแผน

ก. การเตรียมข้อมูล ข. การวิเคราะห์ข้อมูล

ค. การกำหนดแผน ง. การประเมินผล

46. การกำหนด “ภารกิจ” มีความหมายตรงกับข้อใด

ก. วัตถุประสงค์หลัก ข. วัตถุประสงค์เบื้องต้น

ค. เป้าหมายหลัก ง. เป้าหมายรอง

47. แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเป็นแผนประเภทใด

ก. แผนระยะสั้น ข. แผนระยะปานกลาง

ค. แผนระยะยาว ง. แผนระยะยาวมาก

48. ข้อใดคือแผนประเภทสายงาน

ก. แผนมหภาค ข. แผนระยะปานกลาง

ค. แผนพัฒนาภาค ง. แผนระดับกระทรวง

49. กิจกรรมในข้อใดเป็นกิจกรรมที่จะต้องจัดทำก่อนการจัดการทรัพยากรบุคคล

ก. การแต่งตั้ง ข. การบรรจุ

ค. การประเมินผล ง. การวิเคราะห์ตำแหน่ง
50. นาย เอก ตำแหน่งพนักงานขาย ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการ ในกรณีนี้ถือเป็นกระบวนการใดในการจัดการทรัพยากรบุคคล

ก. การเลื่อนตำแหน่ง ข. การย้ายตำแหน่ง

ค. การเปลี่ยนตำแหน่ง ง. การส่งเสริมตำแหน่ง

51. ในกรณีที่องค์การมีจำนวนบุคลากรตั้งแต่ 500-5,000 คน ควรจัดหน่วยงานด้านบุคลากร รูปแบบใด

ก. แยกหน่วยงานออกเป็นการเฉพาะ

ข. รวมกับหน่วยงานอื่นที่เหมาะสม

ค. เพิ่มกำลังคนเพื่อให้การดำเนินการมีประสิทธิภาพ

ง. เพิ่มเครื่องมือที่ทันสมัยเพื่อลดขั้นตอนการทำงาน

52. “Put the right man on the right job” จากข้อความนี้มีความหมายตรงกับข้อใด

ก. การบริหารงานบุคคลที่ยึดหลักความถูกต้อง

ข. การเลื่อนและแต่งตั้งบุคคลโดยการวางแผนล่วงหน้า

ค. การพัฒนาคนดีเพื่อความก้าวหน้าของหน่วยงาน

ง. การจัดคนให้ดำรงตำแหน่งในหน้าที่ที่เหมาะสม

53. ข้อใดอธิบายความหมายของระบบ Patronage System ได้ชัดเจนที่สุด

ก. ให้ความสำคัญกับระบบพวกพ้องและเครือญาติ

ข. เน้นความเสมอภาคและความสามารถในการสรรหาบุคคล

ค. การใช้วิธีการสอบแข่งขันเพื่อเปิดโอกาสให้กับทุกคน

ง. การใช้การเมืองเพื่อสร้างความเป็นกลางในการสรรหา

54. “เงินโบนัส” ถือเป็นเงินประเภทใด

ก. ผลประโยชน์ตอบแทนพิเศษ

ข. ผลประโยชน์เกื้อกูล

ค. เงินพิเศษจากการปฏิบัติงาน

ง. เงินที่องค์การจัดให้เพื่อจูงใจ

55. กระบวนการจัดการทรัพยากรบุคคลในข้อใดเป็นกระบวนการแรกที่ต้องดำเนินการ

ก. การวางแผน ข. การวิเคราะห์ตำแหน่ง

ค. การสรรหา ง. การบรรจุแต่งตั้ง
56. ข้อใดอธิบายความหมายของระบบ Merit System ได้ชัดเจนที่สุด

ก. ให้ความสำคัญกับระบบพวกพ้องและเครือญาติ

ข. เน้นความเสมอภาคและความสามารถในการสรรหาบุคคล

ค. การใช้วิธีการสอบแข่งขันเพื่อเปิดโอกาสให้กับทุกคน

ง. การใช้การเมืองเพื่อสร้างความเป็นกลางในการสรรหา

57. การสั่งการ การกำหนดแนวปฏิบัติต่างๆ ถือเป็นการสื่อสารประเภทใด

ก. การสื่อสารจากบนลงล่าง ข. การสื่อสารจากล่างสู่บน

ค. การสื่อสารในระดับเดียวกัน ง. การสื่อสารเพื่อการพัฒนา

58. การตัดสินใจโดยใช้วิธี “วิเคราะห์” เหมาะกับการตัดสินใจในข้อใด

ก. การแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดฝัน

ข. การแก้ปัญหาในเชิงบริหาร

ค. การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า

ง. การวิจัยทางการศึกษา

59. การใช้ญาณวิเศษเหมาะกับการตัดสินใจประเภทใด

ก. การแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดฝัน

ข. การแก้ปัญหาในเชิงบริหาร

ค. การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า

ง. การวิจัยทางการศึกษา

60. ข้อใดเป็นหลักการที่สำคัญที่สุดในการตัดสินใจ

ก. คำนึงประโยชน์ของส่วนรวมเป็นหลัก

ข. สามารถปฏิบัติได้

ค. ผู้ปฏิบัติมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ

ง. สามารถแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว

61. คำสั่งที่ดีควรมีลักษณะใดที่สำคัญที่สุด

ก. เป็นลายลักษณ์อักษร

ข. มีความชัดเจนสามารถปฏิบัติได้

ค. มีการอ้างกฎหมายระเบียบปฏิบัติต่างๆ

ง. เป็นการใช้วาจาเพื่อสร้างความใกล้ชิด

62. ผู้จัดการมอบหมายให้นาย ก จัดเตรียมเอกสารการประชุม ควรสั่งการโดยวิธีการใด

ก. สั่งการเป็นลายลักษณ์อักษร

ข. สั่งการด้วยวาจา

ค. ออกคำสั่งเป็นลายลักษณ์อักษร

ง. บอกเล่าต่อๆ กันมา
63. เพราะเหตุใดนักบริหารไม่ควรใช้ประสบการณ์ในการตัดสินใจเพียงอย่างเดียว

ก. เป็นการเสี่ยงมากเกินไป ข. สภาพแวดล้อมมีการเปลี่ยนแปลง

ค. ขาดระบบในการคิด ง. ก่อให้เกิดปัญหาที่ตามมาเป็นอย่างมาก

64. การตัดสินใจในข้อใดที่ช่วยประหยัดเวลาของผู้บริหาร

ก. การวิเคราะห์ ข. การวิจัยเชิงปฏิบัติการ

ค. การใช้ประสบการณ์ ง. การทดลอง

65. งานที่มีความยุ่งยากซับซ้อนควรใช้วิธีการควบคุมประเภทใด

ก. ควบคุมคุณภาพของงาน ข. ควบคุมปริมาณของงาน

ค. ควบคุมด้านเวลา ง. ควบคุมด้านค่าใช้จ่าย

66. การควบคุมในข้อใดที่ต้องระวังในเรื่องของอคติ

ก. การควบคุมโดยวิธีการตรวจเยี่ยม

ข. การควบคุมโดยใช้บุคลากรที่เกี่ยวข้อง

ค. การควบคุมโดยงบประมาณ

ง. การควบคุมโดยเรียงลำดับผลงาน

67. การควบคุมงานในข้อใดที่สามารถช่วยสร้างขวัญและกำลังใจกับบุคลากรได้

ก. การควบคุมโดยกำหนดมาตรฐานของงาน

ข. การควบคุมโดยงบประมาณ

ค. การควบคุมโดยการตรวจเยี่ยม

ง. การควบคุมโดยการเรียงลำดับผลงาน

68. ข้อใดคือประโยชน์สูงสุดที่องค์การจะได้รับจากการควบคุม

ก. มีมาตรฐานการทำงานที่ดี ข. มีเครื่องมือการควบคุมที่มีคุณภาพ

ค. รู้คุณภาพของบุคลากร ง. รู้ความก้าวหน้าขององค์การ

69. ข้อดีของการควบคุมโดยใช้มาตรฐานของงานคือข้อใด

ก. ทำให้เกิดขวัญและกำลังใจ

ข. มีความยืดหยุ่นเหมาะสมกับสถานการณ์

ค. ทำให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการควบคุม

ง. มีความน่าเชื่อถือ

70. ข้อใดคือประโยชน์สูงสุดของการควบคุม

ก. เป็นประโยชน์ต่อองค์การ ข. เป็นประโยชน์ต่องาน

ค. เป็นประโยชน์ต่อผู้บริหาร ง. เป็นประโยชน์ต่อพนักงาน
71. ข้อใดเป็นวิธีการควบคุมด้านเวลา

ก. พนักงานตัดเย็บเสื้อผ้าต้องตัดเย็บเสื้อผ้าได้วันละ 1 ชุด

ข. โรงงานผลิตปลากระป๋องจะผลิตปลากระป๋องให้ได้ 3,000 กระป๋องต่อปี

ค. พนักงานมีสิทธิลาพักร้อนได้ปีละ 10 วัน

ง. ถูกทุกข้อ

72. โรงงานผลิตรถยนต์กำหนดเป้าหมายการผลิตให้ได้ปีละ 2,000 คัน ในการควบคุมการปฏิบัติงานควรเลือกใช้การควบคุมประเภทใด

ก. ควบคุมคุณภาพของงาน ข. ควบคุมปริมาณของงาน

ค. ควบคุมด้านเวลา ง. ควบคุมด้านค่าใช้จ่าย

73. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับ “การควบคุม”

ก. คือการตรวจสอบองค์การ

ข. คือการตรวจตราการปฏิบัติงานของบุคลากร

ค. คือการสร้างขวัญและกำลังใจในการทำงาน

ง. คือวิธีการบริหารงานบุคคลที่เน้นผลสำเร็จ

74. สถานประกอบการจะต้องจัดให้มีคณะกรรมการสวัสดิการในกรณีใด

ก. เป็นข้อเรียกร้องของลูกจ้าง

ข. เมื่อลูกจ้างมีความพร้อมจะทำงาน

ค. เมื่อเปิดกิจการมาแล้วไม่น้อยกว่า 30 วัน

ง. เมื่อมีลูกจ้างตั้งแต่ 50 คนขึ้นไป

75. วันหยุดตามประเพณีมีข้อกำหนดไว้ปีละไม่น้อยกว่ากี่วัน

ก. 12 วัน ข. 13 วัน

ค. 14 วัน ง. 15 วัน

76. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับวันหยุดพักผ่อนประจำปีของลูกจ้าง

ก. ลูกจ้างจะเลื่อนวันหยุดพักผ่อนประจำปีไม่ได้

ข. ลูกจ้างที่ทำงานยังไม่ครบ 1 ปี ไม่มีสิทธิหยุดพักผ่อน

ค. ลูกจ้างที่ทำงานมาครบ 2 ปี มีสิทธิหยุดพักผ่อนได้ไม่น้อยกว่า 6 วัน

ง. ลูกจ้างมีสิทธิได้รับค่าจ้างในวันพักผ่อนประจำปี

77. ลูกจ้างที่ลาป่วยมีสิทธิได้รับค่าจ้างขณะลาปีหนึ่งกี่วัน

ก. ไม่เกิน 30 วัน ข. ไม่เกิน 35 วัน

ค. ไม่เกิน 40 วัน ง. ไม่เกิน 45 วัน
78. ข้อใดไม่ใช่ประเภทของการลาของลูกจ้าง

ก. การลาเพื่อทำหมัน ข. การลาเพื่อศึกษาต่อ

ค. การลาเพื่อรับราชการทหาร ง. การลาคลอด

79. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับการทำงานล่วงเวลา

ก. ได้รับค่าล่วงเวลาไม่น้อยกว่า 1 เท่าของอัตราค่าจ้างต่อชั่วโมง

ข. การทำงานในวันหยุดเกินเวลาทำงานปกติจะได้รับค่าล่วงเวลา 2 เท่า

ค. การทำงานไม่น้อยกว่า 2 ชั่วโมง ต้องจัดให้มีเวลาพักไม่น้อยกว่า 20 นาที

ง. ถูกทุกข้อ

80. “แรงงานเด็ก” มีความหมายตรงกับข้อใด

ก. การใช้แรงงานผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี

ข. การใช้แรงงานผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี

ค. การใช้แรงงานผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 21 ปี

ง. ถูกทุกข้อ

81. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับเงินชดเชย

ก. ลูกจ้างทำงานติดต่อกันครบ 120 วัน แต่ไม่เกิน 1 ปี มีสิทธิได้รับเงินชดเชย 30 วัน

ข. ลูกจ้างทำงานติดต่อกันครบ 1 ปี แต่ไม่ครบ 3 ปี มีสิทธิได้รับเงินชดเชย 60 วัน

ค. ลูกจ้างทำงานติดต่อกันครบ 3 ปี แต่ไม่ครบ 6 ปี มีสิทธิได้รับเงินชดเชย 90 วัน

ง. ถูกทุกข้อ

82. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับการลาเพื่อรับราชการทหารของลูกจ้าง

ก. ไม่มีสิทธิรับค่าจ้างเพราะได้รับเงินจากทางราชการแล้ว

ข. มีสิทธิรับเงินค่าจ้างแต่ไม่เกิน 60 วัน

ค. มีสิทธิรับเงินค่าจ้างตลอดระยะเวลาที่รับราชการทหาร

ง. ถูกทุกข้อ

83. ประกันสังคมให้ความคุ้มครองผู้ประกันตน 6 ประเภท ยกเว้นข้อใด

ก. กรณีสงเคราะห์บุตร ข. กรณีสงเคราะห์บิดา-มารดา

ค. กรณีเสียชีวิต ง. กรณีชราภาพ

84. ข้อใดเป็นองค์ประกอบของระบบสารสนเทศ

ก. ตัวป้อน การประมวลผล ผลลัพธ์ การป้อนกลับ

ข. ตัวป้อน การประมวลผล การป้อนกลับ ผลลัพธ์

ค. การประมวลผล ตัวป้อน ผลลัพธ์ การป้อนกลับ

ง. การประมวลผล ตัวป้อน การป้อนกลับ ผลลัพธ์

85. “Processing” คือองค์ประกอบใดของระบบสารสนเทศ

ก. ผลลัพธ์ ข. ตัวป้อน

ค. การประมวลผล ง. การป้อนกลับ

86. องค์ประกอบของระบบสารสนเทศข้อใดที่มีความจำเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์มากที่สุด

ก. การป้อนข้อมูล ข. การประมวลผล

ค. ผลลัพธ์ ง. การป้อนกลับ

87. การ Update ข้อมูลมีความหมายตรงกับข้อใด

ก. การทำข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน

ข. การประมวลผลข้อมูล

ค. การตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล

ง. การสร้างความน่าเชื่อถือของข้อมูล

88. ผู้บริหารระดับสูงใช้ข้อมูลสารสนเทศเพื่อประโยชน์ในด้านใดมากที่สุด

ก. ใช้สร้างมาตรฐานในการควบคุม

ข. ใช้พัฒนาการทำงานของผู้บริหาร

ค. ใช้เป็นข้อมูลในการประเมินผล

ง. ใช้ประกอบการตัดสินใจ

89. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับ “สารสนเทศ”

ก. เป็นเรื่องเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์

ข. เป็นเรื่องเกี่ยวกับอินเทอร์เน็ต

ค. เป็นเรื่องเกี่ยวกับการนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อนำไปใช้ประโยชน์

ง. เป็นเรื่องเกี่ยวกับการวางเครือข่ายเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์ไว้ด้วยกัน

90. คำว่า “สารสนเทศ” ตรงกับศัพท์ในภาษาอังกฤษคำว่าอะไร

ก. Information ข. Internet

ค. Relation ง. Computer

91. คอมพิวเตอร์ระบบเครือข่ายมีความหมายตรงกับข้อใด

ก. Modem ข. Network

ค. WWW ง. Website

92. ขั้นตอนใดเป็นขั้นตอนแรกของการพัฒนาองค์การ

ก. การรวบรวมปัญหา ข. การวางแผน

ค. การสร้างกลุ่ม ง. การสร้างความเข้าใจ

93. การบริหารแบบไคเซ็นถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกที่ประเทศใด

ก. ญี่ปุ่น ข. เกาหลี

ค. จีน ง. เวียดนาม
94. กลุ่มพัฒนาคุณภาพใช้ชื่อย่อๆ ว่าอะไร

ก. QCC ข. TQC

ค. QTC ง. CTQ

95. เป้าหมายของการจัดการแบบไคเซ็นคือข้อใด

ก. การสร้างทีมงาน

ข. การคิดค้นวิธีการทำงานใหม่

ค. การทำงานโดยเน้นวัตถุประสงค์

ง. การลดต้นทุนเพื่อเพิ่มผลผลิต

96. แนวการประยุกต์หลักการจัดการในข้อใดที่ทำได้ค่อนข้างยากในวัฒนธรรมไทย

ก. การจัดการแบบไคเซ็น

ข. การจัดการแบบกลุ่มพัฒนา

ค. การจัดการโดยยึดวัตถุประสงค์

ง. การใช้ระบบให้ข้อเสนอแนะ

97. ข้อใดเป็นขั้นตอนของการใช้กลุ่มพัฒนาคุณภาพ

ก. การตรวจสอบ การวางแผน การดำเนินการแก้ไขปัญหา การนำผลไปปฏิบัติ

ข. การวางแผน การดำเนินการแก้ไขปัญหา การตรวจสอบ การนำผลไปปฏิบัติ

ค. การดำเนินการแก้ไขปัญหา การตรวจสอบ การวางแผน การนำผลไปปฏิบัติ

ง. การนำผลไปปฏิบัติ การตรวจสอบ การวางแผน การดำเนินการแก้ไขปัญหา

98. การจัดการแบบรีเอ็นจีเนียริ่งมีลักษณะเด่นในข้อใด

ก. การเปลี่ยนแปลงโดยเน้นการสร้างทีมงาน

ข. การเปลี่ยนแปลงโดยเน้นความสม่ำเสมอและต่อเนื่อง

ค. การเปลี่ยนแปลงแบบถอนรากถอนโคน

ง. การเปลี่ยนแปลงโดยใช้เทคโนโลยี

99. เพราะสาเหตุใดจึงต้องมีการประยุกต์หลักการจัดการมาใช้

ก. เพราะองค์การแต่ละองค์การมีขนาดใหญ่

ข. เพราะองค์การแต่ละองค์การมีความแตกต่างกัน

ค. เพราะองค์การแต่ละองค์การต้องการการอยู่รอด

ง. เพราะองค์การแต่ละองค์การต้องการความก้าวหน้า

100. แนวทางการพัฒนาองค์การให้ความสำคัญกับองค์ประกอบในข้อใด

ก. พฤติกรรมของผู้ปฏิบัติงาน

ข. เทคนิคในการปฏิบัติงาน

ค. เทคโนโลยีที่ใช้ในการปฏิบัติงาน

ง. ค่าตอบแทนที่ผู้ปฏิบัติงานจะได้รับ



ชุดที่ 2




1. เพราะสาเหตุใดจึงมีผู้กล่าวว่าการจัดการเป็น “ศาสตร์”

ก. ต้องมีการประยุกต์ใช้ให้เหมาะสม ข. สามารถนำมาใช้ประโยชน์ต่อองค์การได้

ค. เป็นองค์ความรู้ที่ถ่ายทอดถึงกันได้ ง. ถูกทุกข้อ

2. ข้อใดไม่ใช่กระบวนการในการจัดการ

ก. การประสานงาน ข. การวางแผน

ค. การตัดสินใจ ง. การจัดองค์การ

3. ข้อใดเป็นบทบาทด้านการสื่อสารของนักบริหารหรือผู้จัดการ

ก. บทบาทในฐานะผู้วางแผน ข. บทบาทในฐานะผู้กำหนดนโยบาย

ค. บทบาทในฐานะโฆษก ง. บทบาทในฐานะผู้ตัดสินใจ

4. นายสมชาติ ประชารัก ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการกองการเจ้าหน้าที่ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ในทางการบริหารถือว่าเป็นผู้บริหารในระดับใด

ก. ผู้บริหารระดับต่ำ ข. ผู้บริหารระดับต้น

ค. ผู้บริหารระดับกลาง ง. ผู้บริหารระดับสูง

5. เพราะสาเหตุในข้อใดที่ทำให้การจัดการช่วยทำให้พนักงานมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ก. มีการใช้ทรัพยากรบุคคลอย่างคุ้มค่า ข. ทำให้เกิดระบบการทำงานที่ดี

ค. เกิดภาวะการจ้างงานเพิ่มมากขึ้น ง. ช่วยสร้างขวัญและกำลังใจ

6. ข้อใดคือความหมายของการจัดการของอองรี ฟาโยล

ก. กระบวนการที่ประกอบด้วยการวางแผนการจัดองค์การ การบังคับบัญชา การประสานงาน และการควบคุม

ข. การสั่งงาน ควบคุมงาน ดำเนินงาน

ค. กระบวนการ กิจกรรมหรือการศึกษาเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่

ช. การประสมประสานทรัพยากรต่างๆ เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิผล





7. ข้อใดคือความแตกต่างระหว่างการจัดการและการบริหาร

ก. มีความหมายต่างกัน

ข. การจัดการใช้กับองค์การของเอกชนมากกว่า

ค. การจัดการมีความหมายกว้างกว่า

ง. การบริหารต้องมีบุคคล 2 คนขึ้นไปแต่การจัดการกี่คนก็ได้

8. ในการจัดการองค์การให้มีประสิทธิภาพนอกจากมีความรู้และหลักเกณฑ์ในเชิงของศาสตร์แล้วยังต้องมีสิ่งใดอีก

ก. การวางแผนที่ดี ข. การประสานงานที่มีประสิทธิภาพ

ค. มีการควบคุมที่ดี ง. มีทักษะที่จะประยุกต์ศาสตร์นั้นให้เหมาะสม

9. ข้อใดคือความสำคัญของการจัดการ

ก. ความสำเร็จขององค์กร ข. การใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า

ค. คุณภาพชีวิตของพนักงานดีขึ้น ง. ถูกทุกข้อ

10. ข้อใดไม่ใช่บทบาทและหน้าที่ของผู้จัดการของเฮนร์ มินตสเบิร์ก

ก. ด้านการสื่อสาร ข. ด้านการใช้ทรัพยากร

ค. ด้านความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ง. ด้านการตัดสินใจ

11. องค์การรัฐวิสาหกิจ มีลักษณะอย่างไร

ก. เป็นองค์การของรัฐเป็นเจ้าของดำเนินการค้าโดยไม่หวังผลกำไร

ข. เป็นองค์การของเอกชนเป็นเจ้าของดำเนินการค้าโดยไม่หวังผลกำไร

ค. เป็นองค์การของรัฐเป็นเจ้าของดำเนินการค้าโดยเพื่อสร้างผลกำไร

ง. เป็นองค์การของเอกชนเป็นเจ้าของดำเนินการค้าโดยเพื่อสร้างผลกำไร

12. เราเรียกระบบการบริหารในองค์การของรัฐว่าอะไร

ก. ระบบรัฐบาล ข. ระบบราชการ

ค. องค์การราชการ ง. ระบบธุรกิจ

13. ข้อใดคือความหมายของคำว่า “องค์การ”

ก. องค์การในฐานะเป็นหน่วยงานเพื่อประกอบธุรกิจ

ข. กลุ่มคนหรือหน่วยงานที่ประกอบกิจการ

ค. องค์การในฐานะเป็นหน่วยงานเพื่อประกอบกิจกรรม

ง. องค์การในฐานะเป็นโครงสร้างของสังคม

14. ข้อใดถือเป็นองค์กรในหน่วยงานของรัฐ

ก. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ข. มหาวิทยาลัยรังสิต

ค. มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ง. มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ





15. กฎหมายใดที่กำหนดสิทธิหน้าที่และคุณสมบัติของบุคคล

ก. กฎหมายอาญา ข. กฎหมายพาณิชย์

ค. กฎหมายระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน ง. กฎหมายแพ่ง

16. ข้อใดอธิบายความหมายของ “องค์กร” ได้ชัดเจนที่สุด

ก. ส่วนประกอบของการทำงาน

ข. ส่วนประกอบของกิจกรรม

ค. ส่วนประกอบย่อยของหน่วยงานใหญ่

ง. ส่วนประกอบใหญ่ของหน่วยงานย่อย

17. องค์กรของรัฐเกิดขึ้นได้จากกฎหมายประเภทใด

ก. ประมวลกฎหมายอาญา ข. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

ค. กฎหมายระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน ง. ประมวลกฎหมายแพ่ง

18. ธุรกิจเริ่มแรกที่เกิดขึ้นในสังคมเป็นธุรกิจประเภทใด

ก. ธุรกิจเจ้าของคนเดียว ข. แผงลอย

ค. หาบเร่ ง. ห้างหุ้นส่วน

19. เพราะเหตุใดจึงกล่าวว่าองค์การธุรกิจเป็นองค์การแบบเปิด

ก. ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยทำให้องค์กรมีความคล่องตัว

ข. มีโครงสร้างขนาดเล็กกะทัดรัด ใช้เงินลงทุนน้อย

ค. มีความยืดหยุ่นขนาดเล็กกะทัดรัด

ง. มีการลงทุนสูงและจัดระบบบริหารที่ดี

20. ข้อใดใช้เรียกชื่อผู้ปฏิบัติงานในองค์กรธุรกิจ

ก. บุคลากร ข. เจ้าหน้าที่

ค. ลูกจ้าง ง. พนักงาน

21. ข้อใดไม่ใช่หลักการบริหารของเฮนรี ฟาโยล์

ก. การวางแผน

ข. การประสานงาน

ค. การควบคุม

ง. การจัดแบ่งแผนกงาน

22. ข้อใดคือความหมายของการควบคุมตามหลักการของเฮนรี ฟาโยล์?

ก. การติดต่อสัมพันธ์กับหน่วยงานย่อยต่างๆ

ข. การดูแลให้พนักงานปฏิบัติงานให้เป็นไปตามแนวทางที่กำหนดเอาไว้

ค. การกำหนดกิจกรรมในอนาคตไว้ก่อนล่วงหน้า

ง. การแบ่งแผนกงานให้องค์การไว้อย่างชัดเจน

23. แนวคิดการจัดการใดที่เน้นความมีเหตุผลและประโยชน์สูงสุดขององค์การ

ก. การจัดการเชิงวิทยาศาสตร์

ข. การจัดการเชิงบริหาร

ค. แนวคิดระบบราชการ

ง. แนวคิดจิตวิทยาอุตสาหกรรม

24. ใครที่มีแนวคิดต่อต้านแนวคิดการจัดการเชิงวิทยาศาสตร์

ก. ฮิวโก้ เมาน์สเตอร์เบิร์ก

ข. ลิลเลียน เอม. กิลเบรธ

ค. เอลตัน เมโย

ง. เชสเตอร์ ไอ. บาร์นาร์ด

25. กลุ่มแนวคิดใดที่นำเอาศาสตร์หลายๆ แขนงมาใช้ในการจัดการ

ก. วิทยาการจัดการ

ข. ระบบราชการ

ค. การบริหารศาสตร์

ง. พฤติกรรมมนุษย์

26. ข้อใดคือความหมายของการควบคุมตามหลักการของเฮนรี มาโยล์

ก. การติดต่อสัมพันธ์กับหน่วยงานย่อยต่างๆ

ข. การดูแลให้พนักงานปฏิบัติงานให้เป็นไปตามแนวทางที่กำหนดเอาไว้

ค. การกำหนดกิจกรรมในอนาคตไว้ก่อนล่วงหน้า

ง. การแบ่งแผนกงานในองค์การไว้อย่างชัดเจน

27. แนวคิดการจัดการใดที่เน้นความมีเหตุผลและประโยชน์สูงสุดขององค์กร

ก. การจัดการเชิงวิทยาศาสตร์ ข. การจัดการเชิงบริหาร

ค. แนวคิดระบบราชการ ง. แนวคิดจิตวิทยาอุตสาหกรรม

28. ใครที่มีแนวคิดต่อต้านแนวคิดการจัดการเชิงวิทยาศาสตร์

ก. ฮิวโก้ เมาน์สเตอร์เบิร์ก ข. ลิลเลียน เอม. กิลเบรธ

ค. เอลตัน เมโย ง. เชสเตอร์ ไอ. บาร์นาร์ด

29. ข้อใดคือแนวคิดการบริหารศาสตร์

ก. ให้ความสำคัญกับสภาพแวดล้อมและสถานการณ์ที่แวดล้อมองค์การ

ข. ถือว่าองค์การเป็นระบบรวมของส่วนประกอบต่างๆ

ค. ให้ความสำคัญกับการจัดการทำงานในเชิงปริมาณ

ง. เน้นธรรมชาติของการจัดการและองค์การ



30. นายแดงขายก๋วยเตี๋ยวหน้าปากซอย นายแดงทำธุรกิจประเภทใด

ก. กิจการร่วมค้า ข. ธุรกิจเจ้าของคนเดียว

ค. สหกรณ์ ง. ห้างหุ้นส่วนจำกัด

31. รูปแบบการประกอบธุรกิจรูปแบบใดที่มีความเก่าแก่มากที่สุด

ก. บริษัท ข. กิจการร่วมค้า

ค. ธุรกิจเจ้าของคนเดียว ง. ห้างหุ้นส่วน

32. “หุ้นส่วนผู้จัดการ” หมายถึงผู้ใด

ก. หุ้นส่วนผู้ใดผู้หนึ่ง

ข. หุ้นส่วนที่ถือหุ้นมากที่สุด

ค. หุ้นส่วนที่ไม่จำกัดความรับผิดชอบ

ง. หุ้นส่วนที่จำกัดความรับผิดชอบ

33. สิ่งที่หุ้นส่วนสามารถนำมาร่วมลงทุนในการจัดตั้งห้างหุ้นส่วนคือข้อใด

ก. เงิน ข. แรงงาน

ค. ทรัพย์สิน ง. ถูกทุกข้อ

34. ห้างหุ้นส่วนในข้อใดมีลักษณะของการเป็นบุคคลธรรมดา

ก. ห้างหุ้นส่วนสามัญ ข. ห้างหุ้นส่วนจำกัดนิติบุคคล

ค. ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล ง. ห้างหุ้นส่วนจำกัด

35. รูปแบบการประกอบธุรกิจในข้อใดที่กำลังจะสูญหายไป

ก. หาบเร่ ข. แผงลอย

ค. ร้านสินค้าสะดวกซื้อ ง. โชห่วย

36. กระบวนการจัดการของกูลิก และเออร์วิกคือข้อใด

ก. POSDCOLB ข. POBSCOTS

ค. POBSCoRS ง. POSDCoRB

37. ลูเทอร์ กูลิก ได้รับอิทธิพลมาจากใครในการจัดกระบวนการจัดการ

ก. ลินดอนล์ เออร์วิก ข. เฮนรี ฟาโยล์

ค. เออร์เนส เดล ง. แฮร์โรลต์ คูนตซ์

38. ข้อใดคือองค์ประกอบเหมือนกันของเฮนรี ฟาโยล์ กับกูลิกและเออร์วิก

ก. การวางแผน

ข. การจัดการบุคคล

ค. การรายงาน

ง. การงบประมาณ



39. องค์ประกอบที่ต่างกันในกระบวนการจัดการของคูนตซ์และเออร์เนส เดล

ก. การจัดองค์การ

ข. การจัดคนเข้าทำงาน

ค. การอำนวยการ

ง. การสร้างสรรค์สิ่งใหม่

40. การกำหนดหน้าที่ของตำแหน่งต่างๆ ในองค์การตรงกับกระบวนการจัดกระบวนการในข้อใด

ก. การควบคุมดูแล

ข. การสั่งการบังคับบัญชา

ค. การอำนวยการ

ง. การจัดองค์การ

41. Innovation หมายถึงขั้นตอนใดในการจัดการ

ก. การรายงานผลการปฏิบัติงาน ข. การกำหนดงบประมาณ

ค. การสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ง. การอำนวยการ

42. การเป็นตัวแทนขององค์การมีความหมายตรงกับข้อใด

ก. Planning ข. Controlling

ค. Organizing ง. Representation

43. การเป็นตัวแทนองค์การก่อให้เกิดประโยชน์ในข้อใด

ก. ทำให้องค์การเป็นที่รู้จัก

ข. แก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นระหว่างองค์การ

ค. สร้างความสัมพันธ์กับองค์การอื่น

ง. รักษาผลประโยชน์ขององค์การ

44. การจัดการบุคคลมีความหมายตรงกับข้อใด

ก. Budgeting

ข. Staffing

ค. Innovation

ง. Organizing

45. กระบวนการจัดการกระบวนการใดที่ต้องดำเนินการเป็นลำดับแรก

ก. การวางแผน

ข. การจัดองค์การ

ค. การงบประมาณ

ง. การอำนวยการ

46. การวางแผนระยะยาวเป็นแผนที่มีระยะเวลาเท่าใด

ก. 1-2 ปี

ข. 4-5 ปี

ค. 5-10 ปี

ง. 10-20 ปี

47. ข้อใดคือลักษณะของการวางแผนกลยุทธ์

ก. การวางแผนในภาพรวมเพื่อนำองค์กรไปสู่ภาพลักษณ์ใหม่

ข. การแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในองค์กร

ค. การพัฒนาผลผลิต

ง. เป็นแนวทางในการดำเนินงาน

48. ข้อใดคือความหมายของการจัดการทรัพยากรบุคคล

ก. สรรหาบุคลากร ข. สอนงาน พัฒนาทรัพยากรบุคคล

ค. การให้บำเหน็จ บำนาญ ง. ถูกทุกข้อ

49. ข้อใดไม่ใช่ประโยชน์ต่อบุคคลของการจัดการทรัพยากรบุคคล

ก. ทำให้เห็นคุณค่าตัวเอง ข. ก่อให้เกิดรายได้

ค. ก่อให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดี ง. เปิดโอกาสให้คนมีงานทำ

50. การจัดการทรัพยากรบุคคลที่ดีก่อให้เกิดผลดีอย่างไรต่อองค์การ

ก. ทำให้ได้รับการพัฒนา

ข. ลดต้นทุนในการดำเนิน

ค. ทำให้คนเห็นคุณค่าในการทำงาน

ง. มีรายได้เลี้ยงครอบครัว

51. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับแผน

ก. เป็นเรื่องของอนาคต ข. เป็นเรื่องของอดีต

ค. เป็นเรื่องของปัจจุบัน ง. ถูกทุกข้อ

52. ข้อใดคือข้อได้เปรียบของแผนระยะยาว

ก. มีความเป็นไปได้สูง ข. สามารถปฏิบัติได้ง่าย

ค. มีความยืดหยุ่นสูง ง. มองอนาคตได้กว้างไกล

53. แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเป็นแผนประเภทใด

ก. แผนระยะยาวมาก ข. แผนระยะยาว

ค. แผนระยะปานกลาง ง. แผนระยะสั้น

54. เพราะสาเหตุใดการวางแผนจึงต้องมีความต่อเนื่อง

ก. ทำให้ง่ายต่อการปฏิบัติ มีความเข้าใจที่ตรงกัน

ข. เป็นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าสูงสุด

ค. เพราะแผนแผนเดียวอาจไม่สามารถตอบสนองนโยบายขององค์การได้

ง. ถูกทุกข้อ

55. ข้อใดคือแผนประเภทสายงาน

ก. แผนพัฒนาภาค ข. แผนระยะปานกลาง

ค. แผนระดับกระทรวง ง. แผนมหภาค

56. ข้อใดคือประโยชน์ต่อประเทศชาติของการจัดการทรัพยากรบุคคลที่ดี

ก. เศรษฐกิจเจริญก้าวหน้า ข. เกิดความสงบเรียบร้อย

ค. สังคมน่าอยู่ ง. ก่อให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดี

57. บทบาทใดเป็นบทบาทหน้าที่ในการจัดการทรัพยากรบุคคลในเชิงการบริหารและการจัดการ

ก. บทบาทหน้าที่เกี่ยวกับสมาชิกองค์การ

ข. บทบาทหน้าที่เกี่ยวกับองค์การ

ค. บทบาทหน้าที่เกี่ยวกับการฝึกอบรมและพัฒนา

ง. บทบาทหน้าที่เกี่ยวกับระเบียบวินัย

58. การแต่งตั้งการประเมินผล การโยกย้ายและเปลี่ยนแปลงหน้าที่รับผิดชอบ เป็นบทบาทใดในบทบาทหน้าที่ในการจัดการทรัพยากรบุคคล

ก. การวางแผนทรัพยากรบุคคล ข. การจ้างงาน

ค. การจัดการด้านตำแหน่งงาน ง. การฝึกอบรมและพัฒนา

59. หลักการใดที่จะต้องมีมากๆ ในการเปิดรับบุคคลเข้ามาทำงาน

ก. หลักความเสมอภาค

ข. หลักความสามารถ

ค. หลักความมั่นคง

ง. หลักความเป็นกลางทางการเมือง

60. ขั้นตอนใดเป็นการเปลี่ยนแปลงการดำรงตำแหน่ง

ก. การพัฒนาบุคลากร

ข. การย้ายตำแหน่ง

ค. การเลื่อนตำแหน่ง

ง. ถูกทั้ง ข และ ค

61. “Put the right man on the right job” จากข้อความนี้มีความหมายตรงกับข้อใด

ก. การพัฒนาคนดีเพื่อความก้าวหน้าของหน่วยงาน

ข. การจัดคนให้ดำรงตำแหน่งในหน้าที่ที่เหมาะสม

ค. การเลื่อนและแต่งตั้งบุคคลโดยการวางแผนล่วงหน้า

ง. การบริหารงานบุคคลที่ยึดหลักความถูกต้อง

62. กิจกรรมในข้อใดเป็นกิจกรรมที่จะต้องจัดทำก่อนการจัดการทรัพยากรบุคคล

ก. การประเมินผล ข. การวิเคราะห์ตำแหน่ง

ค. การแต่งตั้ง ง. การบรรจุ

63. ข้อใดเป็นประโยชน์สูงสุดของการจัดการทรัพยากรบุคคล

ก. ทำให้องค์การดำเนินการและอยู่รอดได้

ข. ทำให้มีการใช้ทรัพยากรขององค์การอย่างคุ้มค่าสูงสุด

ค. ทำให้องค์การบรรลุวัตถุประสงค์

ง. ทำให้องค์การได้รับบุคลากรที่มีความสามารถ

64. ข้อใดอธิบายความหมายของ “ความเสมอภาค” ได้ชัดเจนที่สุด

ก. การเปิดโอกาสให้ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน

ข. การจ่ายเงินเดือนให้เท่ากันทุกคน

ค. การเลื่อนตำแหน่งให้ทุกคนในองค์การ

ง. ถูกทุกข้อ

65. ในกรณีที่องค์การมีจำนวนบุคลากรตั้งแต่ 500-5,000 คน ควรจัดหน่วยงานด้านบุคลากรรูปแบบใด

ก. เพิ่มกำลังคนเพื่อให้การดำเนินการมีประสิทธิภาพ

ข. รวมกับหน่วยงานอื่นที่เหมาะสม

ค. เพิ่มเครื่องมือที่ทันสมัยเพื่อลดขั้นตอนการทำงาน

ง. แยกหน่วยงานออกเป็นการเฉพาะ

66. การสั่งการแบบเป็นลายลักษณ์อักษรเหมาะกับข้อใด

ก. เรื่องที่ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยวาจา

ข. เรื่องที่ไม่ค่อยมีความสำคัญต่อองค์การ

ค. เรื่องที่ไม่มีผลกระทบมากต่อองค์การ

ง. เรื่องที่เกี่ยวกับหน่วยงานย่อยๆ หน่วยงานเดียว

67. การจัดทำแผนผังองค์การจะต้องมีการประสานงานตามข้อใด

ก. การประสานงานของหน่วยงานย่อยภายในองค์การ

ข. การประสานงานระดับหน่วยงานย่อยกับหน่วยงานย่อยอื่นภายในองค์การ

ค. การประสานงานระหว่างหน่วยงานหลักกับหน่วยงานย่อย

ง. การประสานงานระหว่างหน่วยงานหลักกับหน่วยงานหลัก





68. ข้อใดหมายถึงบุคคลหรือกลุ่มบุคคลหรือสถาบันที่เป็นเป้าหมายของการสื่อสาร

ก. ผู้ส่งสาร

ข. ข่าวสาร

ค. ผู้รับสาร

ง. ข้อมูลย้อนกลับ

69. “การใช้ศิลปะการบริหารเพื่อตรวจดูว่า การดำเนินงานเป็นไปโดยถูกต้องตามวิธีการหรือไม่” เป็นความหมายของการควบคุมของใคร

ก. อองรี ฟาโยล์

ข. จอร์ว เทอร์รี่

ค. สมพงษ์ เกษมสิน

ง. สมคิด บางโม

70. วัตถุประสงค์ใดของการควบคุม ที่ทำให้ผู้บริหารเกิดความมั่นใจได้ว่างานจะสำเร็จตามกำหนดเวลา

ก. เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการประเมินผล

ข. เพื่อตรวจสอบความก้าวหน้าของงาน

ค. เพื่อตรวจสอบวิธีการปฏิบัติงานของพนักงาน

ง. การควบคุมช่วยสร้างมาตรฐานในการควบคุม

71. ข้อใดไม่ใช่องค์ประกอบในการตัดสินใจ

ก. การสร้างขวัญและกำลังใจ

ข. การตัดสินใจ

ค. การจูงใจ

ง. การวิเคราะห์ข้อมูล

72. การตัดสินใจในข้อใดที่ช่วยประหยัดเวลาของผู้บริหาร

ก. การใช้ประสบการณ์

ข. การวิจัยเชิงปฏิบัติการ

ค. การทดลอง

ง. การวิเคราะห์

73. เพราะเหตุใดนักบริหารไม่ควรใช้ประสบการณ์ในการตัดสินใจเพียงอย่างเดียว

ก. ขาดระบบในการคิด

ข. สภาพแวดล้อมมีการเปลี่ยนแปลง

ค. เป็นการเสี่ยงมากเกินไป

ง. ก่อให้เกิดปัญหาที่ตามมาเป็นอย่างมาก



74. ข้อใดเป็นหลักการที่สำคัญที่สุดในการตัดสินใจ

ก. สามารถปฏิบัติได้

ข. สามารถแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว

ค. ผู้ปฏิบัติมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ

ง. คำนึงประโยชน์ของส่วนรวมเป็นหลัก

75. ผู้จัดการมอบหมายให้นายสมหมายจัดเตรียมเอกสารการประชุม ควรสั่งการโดยวิธีการใด

ก. สั่งการด้วยวาจา

ข. ออกคำสั่งเป็นลายลักษณ์

ค. บอกเล่าต่อๆ กันมา

ง. ออกคำสั่งเป็นลายลักษณ์อักษร

76. วัตถุประสงค์ใดของการควบคุม ที่ทำให้ผู้บริหารเกิดความมั่นใจได้ว่างานจะสำเร็จตามกำหนดเวลา

ก. เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการประเมินผล

ข. เพื่อตรวจสอบความก้าวหน้าของงาน

ค. เพื่อตรวจสอบวิธีการปฏิบัติงานของพนักงาน

ง. การควบคุมช่วยสร้างมาตรฐานในการควบคุม

77. ข้อใดไม่ใช่ประเภทของการควบคุม

ก. การควบคุมด้านเวลา

ข. การควบคุมด้านค่าใช้จ่าย

ค. การควบคุมบุคลากรในองค์การ

ง. การควบคุมปริมาณของงาน

78. บริษัทหนึ่งกำหนดยอดขายให้แผนกขายในปีหน้าเพิ่มขึ้นอีก 10% เป็นการควบคุมแบบใด

ก. ให้เหมาะสมกับลักษณะงาน

ข. มีความสอดคล้องกับความต้องการของงาน

ค. มีความยืดหยุ่น

ง. บ่งบอกข้อบกพร่อง

79. ข้อใดไม่ใช่ประโยชน์ที่ได้จากการควบคุม

ก. ประโยชน์ต่องาน

ข. ประโยชน์ต่อองค์การ

ค. ประโยชน์ต่อบุคลากร

ง. ประโยชน์ต่อการเพิ่มผลผลิต



80. ขั้นตอนใดในกระบวนการในการควบคุมที่จะต้องศึกษาเป้าเหมายในการดำเนินงาน

ก. ศึกษานโยบาย

ข. ศึกษาแผนงาน

ค. ศึกษาขั้นตอน

ง. กำหนดมาตรฐาน

81. วันหยุดตามประเพณีมีข้อกำหนดไว้ปีละไม่น้อยกว่ากี่วัน

ก. 12 วัน ข. 13 วัน

ค. 14 วัน ง. 15 วัน

82. ข้อใดไม่ใช่ประเภทของการลาของลูกจ้าง

ก. การลาเพื่อทำหมัน

ข. การลาเพื่อศึกษาต่อ

ค. การลาเพื่อรับราชการทหาร

ง. การลาคลอด

83. อัตราค่าจ้างในเขตกรุงเทพมหานครมีอัตราเท่าไร

ก. 150 บาท ข. 160 บาท

ค. 170 บาท ง. 180 บาท

84. สถานประกอบการจะต้องจัดให้มีคณะกรรมการสวัสดิการในกรณีใด

ก. เมื่อลูกจ้างมีความพร้อมจะทำงาน

ข. เมื่อเปิดกิจการมาแล้วไม่น้อยกว่า 30 วัน

ค. เมื่อมีลูกจ้างตั้งแต่ 50 คนขึ้นไป

ง. เป็นข้อเรียกร้องของลูกจ้าง

85. “แรงงานเด็ก” มีความหมายตรงกับข้อใด

ก. การใช้แรงงานผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 21 ปี

ข. การใช้แรงงานผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี

ค. การใช้แรงงานผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี

ง. ถูกทุกข้อ

86. ประกันสังคมให้ความคุ้มครองผู้ประกันตน 6 ประเภท ยกเว้นข้อใด

ก. กรณีเสียชีวิต

ข. กรณีชราภาพ

ค. กรณีสงเคราะห์บุตร

ง. กรณีสงเคราะห์บิดา-มารดา

87. ข้อใดคือความหมายตรงกับ “ตัวกล้ำ”

ก. โปรแกรมสื่อสารข้อมูล

ข. เครื่องรับโทรศัพท์

ค. โมเด็ม

ง. เครื่องคอมพิวเตอร์

88. ข้อใดคือระบบแมน

ก. ข่ายงานบริเวณนครหลวง

ข. ข่ายงานบริเวณเฉพาะที่

ค. ข่ายงานบริเวณกว้าง

ง. ข่ายงานอินเทอร์เน็ต

89. ระบบเครือข่ายของธนาคารเป็นข่ายงานประเภทใด

ก. ข่ายงานบริเวณเฉพาะที่

ข. ข่ายงานบริเวณนครหลวง

ค. ข่ายงานบริเวณกว้าง

ง. ข่ายงานอินเทอร์เน็ต

90. การเตรียมความพร้อมของบุคลากรนั้นเป็นการประยุกต์ระบบสารสนเทศลักษณะใด

ก. การทำงานประจำวัน

ข. มาใช้ในงานสำนักงาน

ค. เพื่อการจัดการ

ง. เพื่อการตัดสินใจ

91. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับเงินชดเชย

ก. ลูกจ้างทำงานติดต่อกันครบ 3 ปี แต่ไม่ครบ 6 ปี มีสิทธิได้รับเงินชดเชย 90 วัน

ข. ลูกจ้างทำงานติดต่อกันครบ 1 ปี แต่ไม่ครบ 3 ปี มีสิทธิได้รับเงินชดเชย 60 วัน

ค. ลูกจ้างทำงานติดต่อกันครบ 120 วัน แต่ไม่เกิน 1 ปี มีสิทธิได้รับเงินชดเชย 30 วัน

ง. ถูกทุกข้อ

92. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับ “แรงงานสัมพันธ์”

ก. คือความสัมพันธ์ระหว่างลูกจ้างกับลูกจ้าง

ข. คือความสัมพันธ์ระหว่างนายจ้างกับนายจ้าง

ค. คือความสัมพันธ์ระหว่างลูกจ้างกับนายจ้าง

ง. ถูกทุกข้อ

93. วันหยุดประเพณีมีข้อกำหนดไว้ปีละไม่น้อยกว่ากี่วัน

ก. 12 วัน ข. 13 วัน

ค. 14 วัน ง. 15 วัน

94. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับการลาเพื่อรับราชการทหารของลูกจ้าง

ก. มีสิทธิรับเงินค่าจ้างแต่ไม่เกิน 60 วัน

ข. มีสิทธิรับเงินค่าจ้างตลอดระยะเวลาที่รับราชการทหาร

ค. ไม่มีสิทธิรับค่าจ้างเพราะได้รับเงินจากทางราชการแล้ว

ง. ถูกทุกข้อ

95. อัตราค่าจ้างขั้นพื้นฐานในปัจจุบันมีอัตราเท่าไร

ก. 130 บาท ข. 150 บาท

ค. 160 บาท ง. 170 บาท

96. ข้อใดคือความแตกต่างของกลุ่มพัฒนาคุณภาพกับกลุ่มพัฒนาคุณภาพรวม

ก. การทำงานเป็นทีมเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจ

ข. การลดขั้นตอนการปฏิบัติงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพรวม

ค. การวางแผนต้องสอดคล้องกับนโยบายขององค์การ

ง. การปฏิบัติงานเพื่อเน้นภาพรวมขององค์การเป็นหลัก

97. การบริหารแบบไคเซ็นถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกที่ประเทศใด

ก. เกาหลี ข. จีน

ค. เวียดนาม ง. ญี่ปุ่น

98. การบริหารงานแบบไคเซ็นมีลักษณะเด่นในข้อใด

ก. เน้นความสม่ำเสมอและต่อเนื่อง

ข. เน้นการเปลี่ยนแปลงแบบถอนรากถอนโคน

ค. เน้นการทำงานเป็นทีม

ง. เป็นการเปลี่ยนแปลงแบบถอนรากถอนโคน

99. การจัดการแบบรีเอ็นจีเนียริ่งมีลักษณะเด่นในข้อใด

ก. การเปลี่ยนแปลงโดยเน้นความสม่ำเสมอและต่อเนื่อง

ข. การเปลี่ยนแปลงแบบถอนรากถอนโคน

ค. การเปลี่ยนแปลงโดยใช้เทคโนโลยี

ง. การเปลี่ยนแปลงโดยเน้นการสร้างทีมงาน

100. เป้าหมายของการจัดการแบบไคเซ็นคือข้อใด

ก. การคิดค้นวิธีการทำงานใหม่

ข. การทำงานโดยเน้นวัตถุประสงค์

ค. การสร้างทีมงาน

ง. การลดต้นทุนเพื่อเพิ่มผลผลิต

ชุดที่ 3




1. เพราะสาเหตุใดจึงมีผู้กล่าวว่าการจัดการเป็น “ศิลป์”

ก. ต้องมีการประยุกต์ใช้ให้เหมาะสม

ข. สามารถนำมาใช้ประโยชน์ต่อองค์การได้

ค. เป็นองค์ความรู้ที่ถ่ายทอดถึงกันได้

ง. ถูกทุกข้อ

2. ข้อใดถือว่าเป็นความสำคัญที่สุดของการจัดการ

ก. ทำให้เกิดการจ้างงาน

ข. องค์การบรรลุวัตถุประสงค์ในการจัดตั้ง

ค. ได้รับคำนิยมชมชอบจากประชาชน

ง. เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า

3. ข้อใดกล่าวถูกต้อง

ก. การบริหารตรงกับคำในภาษาอังกฤษว่า Management

ข. การจัดการนิยมใช้กับหน่วยงานของรัฐ

ค. การจัดการตรงกับคำในภาษาอังกฤษว่า Administration

ง. การบริหารนิยมใช้กับหน่วยงานของรัฐ

4. ข้อใดคือคุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของผู้จัดการหรือนักบริหาร

ก. มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี

ข. กล้าคิดกล้าตัดสินใจ

ค. มีจรรยาบรรณในการประกอบอาชีพ

ง. มีความสุขุมรอบคอบ

5. ทักษะในการปฏิบัติงานเป็นทักษะที่มีความจำเป็นสำหรับนักบริหารในระดับใดมากที่สุด

ก. นักบริหารทุกระดับจำเป็นต้องมีเหมือนกันหมด

ข. นักบริหารระดับต้น

ค. นักบริหารระดับกลาง

ง. นักบริหารระดับสูง

6. ทักษะใดที่มีความสำคัญยิ่งต่อผู้บริหารระดับต้น

ก. ทักษะทางความคิด

ข. ทักษะในการประสานงาน

ค. ทักษะในการปฏิบัติ

ง. ถูกทุกข้อ

7. ผู้บริหารระดับใดมีหน้าที่ในการประสานงานและปฏิบัติการในกิจกรรมต่างๆ

ก. ผู้อำนวยการ

ข. หัวหน้าแผนก

ค. หัวหน้างาน

ง. กรรมการผู้จัดการ

8. ผู้บริหารระดับใดเป็นผู้ควบคุมเป้าหมายแผนงานและผลสำเร็จของงานที่สำคัญ

ก. ผู้บริหารระดับต้น ข. ผู้บริหารระดับกลาง

ค. ผู้บริหารระดับสูง ง. ผู้บริหารทุกระดับต้องทำงานร่วมกันทั้งหมด

9. ข้อใดเป็นการแยกองค์การตามการเป็นเจ้าของ

ก. องค์การธุรกิจ

ข. องค์การรัฐวิสาหกิจ

ค. องค์การของเอกชน

ง. องค์การอาสาสมัคร

10. “มูลนิธิชัยพัฒนา” เป็นองค์การประเภทใด

ก. องค์การของรัฐ

ข. องค์การเอกชน

ค. องค์การรัฐวิสาหกิจ

ง. องค์การอาสาสมัคร

11. ข้อใดใช้เรียกชื่อผู้ปฏิบัติงานในองค์การประเภทรัฐวิสาหกิจ

ก. บุคลากร ข. เจ้าหน้าที่

ค. ลูกจ้าง ง. พนักงาน

12. หากจะประกอบธุรกิจขนาดเล็ก เครือข่ายของงานไม่มากและไม่ซับซ้อน ควรจัดสำนักงานในรูปแบบใดจึงจะเหมาะสมที่สุด

ก. Departmentalized Office

ข. Mixed Office

ค. Centralized Office

ง. Combined Office

13. ข้อใดเป็นองค์กรรัฐวิสาหกิจ

ก. โรงพยาบาล

ข. องค์การโทรศัพท์

ค. สำนักพิมพ์มติชน

ง. การไฟฟ้าฝ่ายผลิต

14. องค์การธุรกิจประเภทใดที่ถือว่ามีบทบาทสูงที่สุด

ก. สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย

ข. สมาคมผู้ค้าปลีกแห่งประเทศไทย

ค. สมาคมธนาคารแห่งประเทศไทย

ง. สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย

15. ธุรกิจประเภทใดพบเห็นได้มากที่สุดในประเทศไทย

ก. บริษัทจำกัด

ข. บริษัทมหาชนจำกัด

ค. ธุรกิจเจ้าของคนเดียว

ง. ห้างหุ้นส่วน

16. ในการจัดระเบียบการปกครองของรัฐสำหรับประเทศไทยได้ตราไว้เป็นกฎหมายเรียกว่าอะไร

ก. ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน

ข. พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน

ค. พระราชกำหนดบริหารราชการแผ่นดิน

ง. ประมวลกฎหมายบริหารราชการแผ่นดิน

17. สำหรับผู้ปฏิบัติงานในรัฐวิสาหกิจมีการใช้ชื่อกฎหมายว่าอะไร

ก. พระราชบัญญัติพนักงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์

ข. พระราชกำหนดพนักงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์

ค. พระราชบัญญัติพนักงานรัฐวิสาหกิจ

ง. พระราชกำหนดพนักงานรัฐวิสาหกิจ

18. นักวิชาการคนใดที่คิดค้นการจัดการเชิงวิทยาศาสตร์

ก. เอลตัน เมโย

ข. เฮนรี ฟาโยล์

ค. เฟรเดอริค เทย์เลอร์

ง. กูลิคและเอวิค

19. หลักการทำงานใดที่ใช้วิธีการวิทยาศาสตร์เป็นตัววัดและประเมินผล

ก. หลักเรื่องเวลา

ข. หลักการทำงานแบบวิทยาศาสตร์

ค. หลักการแยกงาน วางแผนออกจากการปฏิบัติ

ง. หลักการกำหนดหน่วยค่าจ้าง

20. ข้อใดคือผู้ที่อยู่ในกลุ่มแนวคิดพฤติกรรมมนุษย์

ก. เอลตัน เมโย

ข. อมิไตย เอทซิโอนิ

ค. เฮนรี ฟาโยล์

ง. แมกซ์ เวเบอร์

21. ข้อใดกล่าวถูกต้อง

ก. แนวคิดระบบราชการเป็นแนวคิดในกลุ่มพฤติกรรมศาสตร์

ข. เฮนรี ฟาโยล์ เป็นผู้คิดค้นการจัดการเชิงระบบ

ค. เฟรเดอริก เทย์เลอร์ เป็นผู้คิดค้นการจัดการเชิงวิทยาศาสตร์

ง. แนวคิดวิทยาการจัดการเกิดขึ้นในกลุ่มการจัดการเชิงวิทยาศาสตร์

22. ใครคือผู้คิดค้นแนวคิดการจัดการแบบระบบราชการ

ก. เอลตัน เมโย

ข. แมกซ์ เวเบอร์

ค. ลิลเลียน เอม. กิลเบรธ

ง. เฮอร์เบิร์ต ไซมอน

23. แนวความคิดการจัดการในข้อใดที่เน้นการออกแบบงานและมาตรฐานการผลิต

ก. การบริหารแนวบริหารศาสตร์

ข. การบริหารแนววิทยาการจัดการ

ค. การบริหารเชิงวิทยาศาสตร์

ง. การบริหารเชิงพฤติกรรม

24. การศึกษาที่ฮอร์ธอร์นทำให้ได้แนวความคิดใดในการจัดการ

ก. ปัจจัยทางจิตวิทยามีอิทธิพลต่อประสิทธิภาพในการผลิต

ข. การมององค์การแนวใหม่เป็นระบบเชื่อมโยงซึ่งกันและกัน

ค. เน้นการคัดเลือกบุคลากรโดยใช้สิ่งจูใจและการจัดสวัสดิการ

ง. เอกภาพในการบังคับบัญชาเป็นเรื่องสำคัญในการจัดการ

25. แนวคิดของกลุ่มใดที่เห็นว่าการจ้างงานเป็นเรื่องของงานอาชีพ มีความมั่นคง

ก. แนวคิดระบบราชการ

ข. แนวคิดพฤติกรรมศาสตร์

ค. แนวคิดเชิงสถานการณ์

ง. แนวคิดเชิงระบบ

26. จุดเด่นของแนวคิดการจัดการเชิงวิทยาศาสตร์คืออะไร

ก. การกำหนดสายการบังคับบัญชา

ข. การจัดการโดยคำนึงถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

ค. การเน้นประสิทธิภาพในการผลิต

ง. การเน้นความเสมอภาคในการปฏิบัติงาน

27. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องในธุรกิจเจ้าของคนเดียว

ก. ใช้ทุนดำเนินการน้อย

ข. มีอิสระในการดำเนินธุรกิจ

ค. ไม่มีข้อจำกัดเรื่องเงินทุน

ง. เลิกกิจการได้สะดวก

28. ธุรกิจใดต้องมีบุคคล 2 คนขึ้นไปตกลงร่วมกันทำธุรกิจ

ก. ห้างหุ้นส่วนสามัญ

ข. บริษัทจำกัด

ค. กองทุนธุรกิจ

ง. ถูกทั้ง ก และ ค

29. ข้อใดคือข้อแตกต่างของห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลและห้างหุ้นส่วนจำกัด

ก. การจดทะเบียน

ข. ฐานะเป็นนิติบุคคลและบุคคลธรรมดา

ค. การมีสิทธิเข้ามาจัดการงาน

ง. การเสียภาษี

30. ข้อใดคือข้อแตกต่างระหว่างห้างหุ้นส่วนสามัญและห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล

ก. การจดทะเบียน

ข. ไม่จำกัดความรับผิดชอบ

ค. สิทธิในการเข้ามาจัดการงาน

ง. ถูกทุกข้อ

31. รูปแบบการประกอบธุรกิจรูปแบบใดที่มีผู้ประกอบการมากที่สุดในประเทศไทย

ก. ห้างหุ้นส่วน

ข. กิจการร่วมค้า

ค. บริษัท

ง. ธุรกิจเจ้าของคนเดียว

32. ห้างหุ้นส่วนจำกัด คำว่า “จำกัด” มีความหมายตรงกับข้อใด

ก. จำกัดจำนวนเงินที่ใช้ในการลงทุน

ข. จำกัดความรับผิดชอบในหนี้สินที่ลงทุน

ค. จำกัดจำนวนผู้ถือหุ้น

ง. จำกัดจำนวนเงินปันผลที่จะมอบให้กับผู้ร่วมลงทุน

33. “หุ้นส่วนผู้จัดการ” หมายถึงผู้ใด

ก. หุ้นส่วนที่ถือหุ้นมากที่สุด

ข. หุ้นส่วนที่จำกัดความรับผิดชอบ

ค. หุ้นส่วนที่ไม่จำกัดความรับผิดชอบ

ง. หุ้นส่วนผู้ใดผู้หนึ่ง

34. ห้างหุ้นส่วนแห่งหนึ่งตั้งชื่อตนเองว่า “อุดมดี” แสดงให้เห็นว่าเป็นห้างหุ้นส่วนประเภทใด

ก. ห้างหุ้นส่วนจำกัด

ข. ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล

ค. ห้างหุ้นส่วนสามัญ

ง. ห้างหุ้นส่วนจำกัดนิติบุคคล

35. ข้อใดไม่ใช่ชื่อเรียกของห้างหุ้นส่วน

ก. ห้างหุ้นส่วนจำกัด

ข. ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล

ค. ห้างหุ้นส่วนสามัญ

ง. ห้างหุ้นส่วนจำกัดนิติบุคคล

36. รูปแบบการประกอบธุรกิจเป็นบริษัทจำกัดคือข้อใด

ก. ร่วมหุ้นตั้งแต่ 5 คน มีหุ้นราคาไม่ต่ำกว่า 5 บาท

ข. ร่วมหุ้นตั้งแต่ 7 คน มีหุ้นราคาไม่ต่ำกว่า 7 บาท

ค. ร่วมหุ้นตั้งแต่ 5 คน มีหุ้นราคาไม่ต่ำกว่า 7 บาท

ง. ร่วมหุ้นตั้งแต่ 7 คน มีหุ้นราคาไม่ต่ำกว่า 5 บาท

37. ธุรกิจที่นำเอาไปซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เราเรียกธุรกิจนั้นว่าอะไร

ก. บริษัทจำกัด

ข. บริษัทมหาชน

ค. ห้างหุ้นส่วนจำกัด

ง. ห้างหุ้นส่วนมหาชน

38. ข้อใดคือกิจการร่วมค้า

ก. เป็นความร่วมมือระหว่างบริษัทกับบริษัท

ข. เป็นความร่วมมือระหว่างบริษัทกับห้างหุ้นส่วน

ค. เป็นความร่วมมือระหว่างห้างหุ้นส่วนกับห้างหุ้นส่วน

ง. ถูกทั้งข้อ ก และ ข

39. “POCCC” เป็นชื่อย่อของระบบการจัดการของใคร

ก. เฮนรี ฟาโยล์

ข. กูลิก และเออร์วิก

ค. แฮร์โรลต์ คูนตซ์

ง. เออร์เนส เดล

40. การจัดทำหน้าที่ความรับผิดชอบของตำแหน่งคือองค์ประกอบใดในกระบวนการจัดการของเฮนรี ฟาโยล์

ก. การวางแผน ข. การจัดองค์การ

ค. การสั่งการบังคับบัญชา ง. การควบคุม

41. ข้อใดไม่ใช่ขั้นตอนในการจัดการ

ก. การสั่งการ ข. การประชาสัมพันธ์

ค. การจัดองค์การ ง. การอำนวยการ

42. กระบวนการจัดการในข้อใดที่นักวิชาการกำหนดไว้เหมือนกัน

ก. การวางแผน ข. การงบประมาณ

ค. การรายงานผล ง. การสั่งการ

43. การแบ่งแผนกงานย่อย การจัดสายงาน เป็นขั้นตอนใดในการจัดการ

ก. การจัดองค์การ ข. การประสานงาน

ค. การวางแผน ง. การจัดการบุคคล

44. ขั้นตอนการจัดการในข้อใดที่ทำให้รู้มาตรฐานการทำงานของพนักงาน

ก. การจัดการ ข. การอำนวยการ

ค. การควบคุม ง. การสั่งการ

45. ฝ่ายทรัพยากรบุคคล มีหน้าที่ตรงกับกระบวนการจัดการในข้อใด

ก. การจัดองค์การ

ข. การควบคุมดูแล

ค. การจัดบุคคล

ง. การงบประมาณ

46. “การตกลงใจไว้เป็นการล่วงหน้าว่าจะทำอะไร จะทำอย่างไร จะทำเมื่อไร และใครจะเป็นผู้กระทำ” เป็นความหมายของการวางแผนของใคร

ก. สุรพงษ์ ปนาทกูล

ข. อนันต์ เกตุวงศ์

ค. ศิริอร ขันธหัตถ์

ง. สมคิด บางโม

47. การวางแผนที่ดีทำให้รู้แนวทางปฏิบัติในอนาคตตามข้อใด

ก. ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างมีคุณค่า

ข. จะต้องเตรียมต่อความล้มเหลว

ค. ลดความเสี่ยงต่อความล้มเหลว

ง. ตรวจสอบความสำเร็จของเป้าหมาย

48. บางองค์การอาจจำกัดคำว่า “หลักและเหตุผล” แทนคำว่าอะไร

ก. หลักเกณฑ์ ข. หลักนโยบาย

ค. ความเป็นมา ง. หลักปฏิบัติ

49. ข้อใดไม่ใช่แหล่งในการค้นหาข้อมูลในการเขียนความเป็นมาของแผน

ก. นโยบายของรัฐ ข. นโยบายขององค์การ

ค. แผนงานเดิม ง. เป้าหมายของแผน

50. ข้อใดคือการทำแผนงานย่อยที่มีการกำหนดรายละเอียดในการปฏิบัติงาน

ก. วัตถุประสงค์ของแผน ข. โครงการ

ค. เป้าหมายเชิงคุณภาพ ง. เป้าหมายของแผน

51. ข้อใดไม่ใช่กระบวนการวางแผน

ก. ขั้นเตรียมการ ข. การวิเคราะห์ข้อมูล

ค. โครงการ ง. การกำหนดแผน

52. ข้อใดคือข้อได้เปรียบของแผนระยะสั้น

ก. มองได้ในระยะไกล ข. มีความแน่นอน

ค. ปฏิบัติได้ง่าย ง. ไม่ยุ่งยากซับซ้อน

53. แผนระยะปานกลางมีระยะเวลาเท่าใด

ก. 1-2 ปี ข. 2-3 ปี

ค. 3-5 ปี ง. 5-7 ปี

54. แผนระยะยาวมากเหมาะกับการจัดทำแผนประเภทใด

ก. แผนทางการทหาร ข. แผนการตลาด

ค. แผนการพัฒนาเศรษฐกิจ ง. แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

55. กำหนดการ “ภารกิจ” มีความหมายตรงกับข้อใด

ก. เป้าหมายหลัก ข. วัตถุประสงค์เบื้องต้น

ค. วัตถุประสงค์หลัก ง. เป้าหมายรอง

56. “การมอบหมาย การชี้แนะ และติดตามผล” คือความหมายของข้อใด

ก. การจัดหน่วยงาน ข. กระบวนการจัดการ

ค. การอำนวยการ ง. การสั่งการ

57. “การสั่งการ การนิเทศงาน และการติดตาม” คือความหมายของการอำนวยการของใคร

ก. ศิริอร ขันธหัตถ์ ข. เออร์เนส เดล

ค. คริส อวิรัตน์ ง. ศิริอร ขันธสัตย์

58. วิธีการตัดสินใจวิธีใดที่เหมาะกับปัญหาที่ยากเพราะต้องใช้เวลาในการดำเนินการมาก

ก. การวิจัยเชิงปฏิบัติการ ข. การวิเคราะห์

ค. การทดลอง ง. การใช้ประสบการณ์

59. ข้อใดไม่ใช่หลักในการตัดสินใจ

ก. คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก

ข. อาจไม่ตรงตามหลักศีลธรรมแต่ต้องไม่ผิดกฎหมาย

ค. ติดตามผลกระทบของการตัดสินใจ

ง. ให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ

60. เครื่องมือใดที่นิยมใช้กันมากเพื่อให้การตัดสินใจให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

ก. แผนผังก้างปลา

ข. CE Diagram

ค. Cause and Effect Diagram

ง. ถูกทุกข้อ

61. ขั้นตอนใดไม่ใช่ขั้นตอนในการจัดการทรัพยากรบุคคล

ก. การส่งเสริมและสนับสนุน ข. การพ้นจากตำแหน่ง

ค. การสรรหาและบรรจุแต่งตั้ง ง. การฝึกอบรมและพัฒนา

62. องค์ประกอบในข้อใดไม่ใช่องค์ประกอบของระบบคุณธรรม

ก. ความโปร่งใส

ข. ความเป็นธรรม

ค. ความเป็นกลางทางการเมือง

ง. ความเสมอภาค

63. ข้อใดอธิบายความหมายของระบบ Patronage System ได้ชัดเจนที่สุด

ก. การใช้วิธีการสอบแข่งขันเพื่อเปิดโอกาสให้กับทุกคน

ข. การใช้การเมืองเพื่อสร้างความเป็นกลางในการสรรหา

ค. เน้นความเสมอภาคและความสามารถในการสรรหาบุคคล

ง. ให้ความสำคัญกับระบบพวกพ้องและเครือญาติ

64. “เงินโบนัส” ถือเป็นเงินประเภทใด

ก. ผลประโยชน์เกื้อกูล

ข. เงินพิเศษจากการปฏิบัติงาน

ค. เงินที่องค์การจัดให้เพื่อจูงใจ

ง. ผลประโยชน์ตอบแทนพิเศษ

65. นาย ก ตำแหน่งพนักงานขาย ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการ ในกรณีนี้ถือเป็นกระบวนการใดในการจัดการทรัพยากรบุคคล

ก. การเปลี่ยนตำแหน่ง

ข. การส่งเสริมตำแหน่ง

ค. การเลื่อนตำแหน่ง

ง. การย้ายตำแหน่ง

66. การตัดสินใจโดยใช้วิธี “วิเคราะห์” เหมาะกับการตัดสินใจในข้อใด

ก. การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า

ข. การแก้ปัญหาในเชิงบริหาร

ค. การวิจัยทางการศึกษา

ง. การแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดฝัน

67. การใช้ญาณวิเศษเหมาะกับการตัดสินใจประเภทใด

ก. การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า

ข. การแก้ปัญหาในเชิงบริหาร

ค. การวิจัยทางการศึกษา

ง. การแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดฝัน

68. การตัดสินใจโดยวิธี “การทดลอง” เหมาะสมกับการตัดสินใจในเรื่องใด

ก. เรื่องที่ต้องการคำตอบที่ถูกต้องที่สุด

ข. เรื่องที่เกิดขึ้นใหม่ ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ค. เรื่องที่ต้องใช้เวลาในการศึกษามาก

ง. ถูกทุกข้อ

69. ข้อใดเป็นปัจจัยที่ทำให้นักบริหารสั่งการเป็นลายลักษณ์อักษร

ก. เรื่องเกี่ยวกับนโยบาย

ข. เรื่องส่วนตัว

ค. เรื่องที่เป็นความลับ

ง. เรื่องเกี่ยวกับคนจำนวนน้อย

70. คำสั่งที่ดีควรมีลักษณะใดที่สำคัญที่สุด

ก. เป็นลายลักษณ์อักษร

ข. มีการอ้างกฎหมายระเบียบปฏิบัติต่างๆ

ค. เป็นการใช้วาจาเพื่อสร้างความใกล้ชิด

ง. มีความชัดเจนสามารถปฏิบัติได้

71. ในการจัดการธุรกิจผู้บริหารจะต้องศึกษาเรื่องใดที่ถือว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญต่อความสำเร็จหรือล้มเหลว

ก. แรงงานสัมพันธ์

ข. กระบวนการจัดการธุรกิจ

ค. การประกันสังคม

ง. สิทธิหน้าที่ของนายจ้างและลูกจ้าง

72. ในการทำงานข้อใดถูกต้อง

ก. ลูกจ้างทำงานไม่เกิน 8 ชั่วโมง/วัน และ 40 ชั่วโมง/สัปดาห์

ข. ลูกจ้างทำงานอย่างน้อย 8 ชั่วโมง/วัน และ 48 ชั่วโมง/สัปดาห์

ค. ลูกจ้างทำงานไม่เกิน 8 ชั่วโมง/วัน และ 48 ชั่วโมง/สัปดาห์

ง. ลูกจ้างทำงานไม่เกิน 8 ชั่วโมง/วัน และ 40 ชั่วโมง/สัปดาห์

73. ข้อใดกล่าวถูกต้องระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง

ก. ต้องมีวันหยุดไม่น้อยกว่าสัปดาห์ละ 1 วัน โดยมีระยะห่างกันไม่เกิน 5 วัน

ข. ตกลงล่วงหน้า กำหนดให้มีวันหยุดประจำสัปดาห์วันใดก็ได้

ค. ลูกจ้างไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างในวันหยุดพักผ่อนประจำปี

ง. ถ้าลูกจ้างที่ทำงานไม่ครบ 1 ปี ไม่สามารถให้หยุดได้

74. ในการลาป่วยลูกจ้างมีสิทธิได้รับค่าจ้างไม่เกินกี่วันต่อปี

ก. 15 วัน ข. 20 วัน

ค. 30 วัน ง. 60 วัน

75. ข้อใดคือความหมายของอัตราค่าจ้างขั้นต่ำพื้นฐาน

ก. อัตราค่าจ้างที่คณะกรรมการว่าจ้างกำหนดเพื่อใช้เป็นพื้นฐานในการกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ

ข. อัตราค่าจ้างที่กระทรวงแรงงานว่าจ้างกำหนดเพื่อใช้เป็นพื้นฐานในการกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ

ค. อัตราค่าจ้างที่นายจ้างว่าจ้างกำหนดเพื่อใช้เป็นพื้นฐานในการกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ

ง. อัตราค่าจ้างที่นายจ้างและลูกจ้างกำหนดเพื่อใช้เป็นพื้นฐานในการกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ

76. ในงานที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและความปลอดภัยของลูกจ้างให้ทำงานกี่ชั่วโมง

ก. 6 ชั่วโมง

ข. 7 ชั่วโมง

ค. 8 ชั่วโมง

ง. 9 ชั่วโมง

77. กรณีที่มีการทำงานล่วงเวลาต่อจากเวลาทำงานปกติไม่น้อยกว่า 2 ชั่วโมง ต้องให้ลูกจ้างพักผ่อนกี่ชั่วโมง

ก. 30 นาที ข. 45 นาที

ค. 60 นาที ง. ไม่มีข้อใดถูก

78. ในกรณีฉุกเฉินผู้ประกันตนจะได้รับสิทธิค่าพาหนะรับจ้างหรือส่วนบุคคลเท่าใด

ก. ไม่เกิน 300 บาท / ครั้ง

ข. ไม่เกิน 350 บาท / ครั้ง

ค. ไม่เกิน 400 บาท / ครั้ง

ง. ไม่เกิน 600 บาท / ครั้ง

79. ข้อใดเรียงลำดับองค์ประกอบของระบบสารสนเทศได้อย่างถูกต้อง

ก. ตัวป้อน ผลลัพธ์ ประมวลผล การป้อนกลับ

ข. ตัวป้อน ประมวลผล ผลลัพธ์ การป้อนกลับ

ค. ประมวลผล ผลลัพธ์ ตัวป้อน การป้อนกลับ

ง. ตัวป้อน การป้อนกลับ ตัวป้อน ประมวลผล

80. ข้อใดไม่ใช่ลักษณะของระบบสารสนเทศที่ดี

ก. มีความถูกต้องเชื่อถือได้

ข. มีความรวดเร็ว

ค. มีความเป็นปัจจุบัน

ง. ครบถ้วนสมบูรณ์

81. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับ “การควบคุม”

ก. คือการตรวจตราการปฏิบัติงานของบุคลากร

ข. คือการตรวจสอบองค์การ

ค. คือการสร้างขวัญและกำลังใจในการทำงาน

ง. คือวิธีการบริหารงานบุคคลที่เน้นผลสำเร็จ

82. ข้อใดไม่ใช่วัตถุประสงค์ของการควบคุม

ก. เพื่อพัฒนาการทำงานของผู้บริหาร

ข. เพื่อสร้างมาตรฐานในการควบคุม

ค. เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการประเมินผล

ง. เพื่อตรวจสอบวิธีการทำงานของพนักงาน

83. งานที่ต้องใช้ทักษะการปฏิบัติควรเลือกวิธีการควบคุมประเภทใด

ก. ควบคุมด้านเวลา

ข. ควบคุมปริมาณของงาน

ค. ควบคุมคุณภาพของงาน

ง. ควบคุมด้านค่าใช้จ่าย

84. ข้อใดคือประโยชน์สูงสุดของการควบคุม

ก. รู้คุณภาพของบุคลากร

ข. มีเครื่องมือการควบคุมที่มีคุณภาพ

ค. รู้ความก้าวหน้าขององค์การ

ง. เป็นประโยชน์ต่อองค์การ

85. การควบคุมในข้อใดที่ต้องระวังในเรื่องของอคติ

ก. การควบคุมโดยงบประมาณ

ข. การควบคุมโดยใช้บุคลากรที่เกี่ยวข้อง

ค. การควบคุมโดยเรียงลำดับผลงาน

ง. การควบคุมโดยวิธีการตรวจเยี่ยม

86. คำว่า “สารสนเทศ” ตรงกับศัพท์ในภาษาอังกฤษคำว่าอะไร

ก. Information ข. Computer

ข. Relation ง. Internet

87. ข้อใดไม่ใช่บทบาทที่สำคัญของระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ

ก. ทำให้การปฏิบัติงานของพนักงานมีระบบขึ้น

ข. ช่วยสรุปและประเมินผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ค. ทำให้มีการใช้ทรัพยากรร่วมกันในองค์การ

ง. ทำให้ผู้บริหารเป็นที่ยอมรับของบุคคลโดยทั่วไป

88. คอมพิวเตอร์ระบบเครือข่ายมีความหมายตรงกับข้อใด

ก. LAN ข. MAN

ค. WWW ง. Internet

89. E-mail มีชื่อเต็มๆ ว่าอะไร

ก. English Mail ข. E-Commerce Mail

ค. E-learning ง. Electronic Mail

90. การ Update ข้อมูลมีความหมายตรงกับข้อใด

ก. การประมวลผลข้อมูล

ข. การตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล

ค. การสร้างความน่าเชื่อถือของข้อมูล

ง. การทำข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน

91. ข้อใดอธิบายความหมายของการประยุกต์หลักการจัดการได้ชัดเจนที่สุด

ก. การคิดค้นวิธีการใหม่ๆ ในการจัดการ

ข. การนำความรู้มาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์

ค. การเปลี่ยนแปลงวิธีการจัดการให้เกิดประสิทธิภาพ

ง. การจัดการโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ

92. เพราะสาเหตุใดจึงต้องมีการประยุกต์หลักการจัดการมาใช้

ก. เพราะองค์การแต่ละองค์การมีความแตกต่างกัน

ข. เพราะองค์การแต่ละองค์การต้องการความก้าวหน้า

ค. เพราะองค์การแต่ละองค์การต้องการอยู่รอด

ง. เพราะองค์การแต่ละองค์การมีขนาดใหญ่

93. คำว่า “OD” ย่อมาจากคำว่าอะไร

ก. Operation Doing

ข. Opening Doing

ค. Output Data

ง. Organization Development

94. ขั้นตอนใดเป็นขั้นตอนแรกของการพัฒนาองค์การ

ก. การวางแผน

ข. การสร้างกลุ่ม

ค. การสร้างความเข้าใจ

ง. การรวบรวมปัญหา

95. แนวทางการพัฒนาองค์การให้ความสำคัญกับองค์ประกอบในข้อใด

ก. เทคนิคในการปฏิบัติงาน

ข. เทคโนโลยีที่ใช้ในการปฏิบัติงาน

ค. ค่าตอบแทนที่ผู้ปฏิบัติงานจะได้รับ

ง. พฤติกรรมของผู้ปฏิบัติงาน

96. แนวการประยุกต์หลักการจัดการแนวทางใดที่ผู้บริหารต้องทำหน้าที่อำนวยการและประสานงาน

ก. การบริหารงานโดยยึดวัตถุประสงค์

ข. การควบคุมคุณภาพ

ค. การใช้ระบบการให้ข้อเสนอแนะ

ง. การพัฒนาองค์การ

97. แนวการประยุกต์หลักการจัดการในข้อใดที่ทำได้ค่อนข้างยากในวัฒนธรรมไทย

ก. การจัดการโดยยึดวัตถุประสงค์

ข. การจัดการแบบไคเซ็น

ค. การจัดการโดยยึดวัตถุประสงค์

ง. การใช้ระบบให้ข้อเสนอแนะ

98. การจัดการโดยยึดวัตถุประสงค์ให้ความสำคัญกับปัจจัยด้านใดมากที่สุด

ก. ผู้บริหารต้องยอมรับการเปลี่ยนแปลง

ข. ผู้ปฏิบัติต้องได้รับการยอมรับ

ค. การกำหนดวัตถุประสงค์

ง. การสร้างขวัญและกำลังใจในการทำงาน

99. กลุ่มพัฒนาคุณภาพใช้ชื่อย่อๆ ว่าอะไร

ก. QCC ข. TQC

ค. QTC ง. CTQ

100. ข้อใดเป็นขั้นตอนของการใช้กลุ่มพัฒนาคุณภาพ

ก. การวางแผน การดำเนินการแก้ไขปัญหา การตรวจสอบ การนำผลไปปฏิบัติ

ข. การนำผลไปปฏิบัติ การตรวจสอบ การวางแผน การดำเนินการแก้ไขปัญหา

ค. การดำเนินการแก้ไขปัญหา การตรวจสอบ การวางแผน การนำผลไปปฏิบัติ

ง. การตรวจสอบ การวางแผน การดำเนินการแก้ไขปัญหา การนำผลไปปฏิบัติ

วันศุกร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2555

ข้อสอบ วิชาหลักการตลาด (3200-1005)

วิชาหลักการตลาด (3200-1005)


ชุดที่ 2
1. กิจกรรมทางการตลาดที่มนุษย์สัมผัสมีกี่ลักษณะ

ก. 2 ลักษณะ ข. 3 ลักษณะ

ค. 4 ลักษณะ ง. 5 ลักษณะ

2. ส่วนประกอบทางการตลาด (Marketing Mix) หมายถึงข้อใด

ก. การสนับสนุนเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง

ข. ปัจจัยที่ช่วยให้การค้าเป็นธุรกิจด้านการตลาดตามวัตถุประสงค์

ค. การกำหนดราคาของสินค้าในรูปของมูลค่าผลิตภัณฑ์

ง. การจัดกิจกรรมติดต่อสังคมเพื่อเผยแพร่ข่าวสารกัน

3. ข้อใดคือความหมายของคำว่า “การจัดจำหน่าย”

ก. ผลิตภัณฑ์ที่ถูกต้องตามความต้องการของลูกค้า

ข. การกำหนดราคาสินค้าในรูปของมูลค่า

ค. การสนับสนุนเพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยน

ง. การจัดกิจกรรมติดต่อสังคมเพื่อเผยแพร่ข่าวสาร

4. ข้อใดคือปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ทั้งหมด

ก. ภาวะทางเศรษฐกิจ, การเมืองและกฎหมาย

ข. เทคโนโลยี, ผลิตภัณฑ์

ค. ราคา, ผลิตภัณฑ์

ง. การจัดจำหน่าย, การแข่งขัน

5. คำว่า “อรรถประโยชน์ (Utility)” หมายถึงข้อใด

ก. การเข้ามามีบทบาทในการผลิต

ข. ความสามารถของสินค้าและบริการแต่ละชนิดที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค

ค. การใช้เวลาในการเพิ่มคุณค่าให้กับสินค้าและบริการ

ง. ถูกทุกข้อ





6. “ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้า” เป็นสถาบันใด

ก. สถาบันการขนส่ง ข. สถาบันการขายส่ง

ค. สถาบันเกี่ยวกับการวิจัยตลาด ง. สถาบันเพื่อการลงทุน

7. ร.ส.พ. คือสถาบันในข้อใด

ก. สถาบันการขายปลีก ข. สถาบันการขายส่ง

ค. สถาบันการขนส่ง ง. สถาบันการประกันภัย

8. ข้อใดต่อไปนี้เป็นกิจกรรมที่มนุษย์ได้สัมผัส

ก. Marketing ข. Market

ค. Production ง. Marketing System

9. การสนับสนุนเพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนให้แก่ผู้ซื้อและผู้ขายได้แก่ข้อใด

ก. การส่งเสริมการขาย ข. การจัดจำหน่าย

ค. ราคา ง. ผลิตภัณฑ์

10. นโยบายและกลยุทธ์เกี่ยวข้องกับเรื่องใด

ก. Price Mix ข. Promotion Mix

ค. Place Mix ง. Product Mix

11.นโยบายและกลยุทธ์เกี่ยวข้องกับเรื่องใด

ก. Price Mix ข. Promotion Mix

ค. Place Mix ง. Product Mix

12. ข้อใดมีความเกี่ยวข้องกับตลาดเป้าหมาย

ก. การแข่งขัน ข. เทคโนโลยี

ค. การเมืองและสังคม ง. ถูกทุกข้อ

13. การตลาดที่ส่งผลให้มนุษย์เกิดความเคยชิน ประทับใจ พอใจในสินค้าหรือบริการจนเกิดความจงรักภักดีในตรายี่ห้อ คืออรรถประโยชน์ด้านใด

ก. ด้านความเป็นเจ้าของ ข. ด้านเวลา

ค. ด้านราคา ง. ด้านภาพพจน์

14. วิวัฒนาการแนวคิดทางการตลาดแบ่งออกเป็นกี่ยุค

ก. 2 ยุค ข. 3 ยุค

ค. 4 ยุค ง. 5 ยุค

15. แนวคิดใดที่เป็นแนวทางปฏิบัติในยุคแรกของการตลาด

ก. แนวความคิดด้านการผลิต

ข. แนวคิดด้านผลิตภัณฑ์

ค. แนวคิดด้านการขาย

ง. แนวคิดด้านการตลาด

16. แนวคิดใดเป็นแนวทางปฏิบัติในยุคแรกของการตลาด

ก. แนวความคิดด้านการผลิต ข. แนวคิดด้านผลิตภัณฑ์

ค. แนวคิดด้านการขาย ง. แนวคิดด้านการตลาด

17. แนวความคิดใหม่ที่มุ่งเน้นการสร้างความพึงพอใจให้แก่ผู้บริโภคคือข้อใด

ก. แนวความคิดด้านผลิตภัณฑ์

ข. แนวความคิดด้านการขาย

ค. แนวความคิดด้านการตลาด

ง. แนวความคิดด้านการตลาดเพื่อสังคม

18. สิ่งที่เสนอขายให้กับตลาดสามารถที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้า กลุ่มเป้าหมายคือข้อใด

ก. Price ราคา ข. Place การจัดจำหน่าย

ค. Promotion การส่งเสริมการตลาด ง. Product ผลิตภัณฑ์

19. ข้อใดคือความหมายของคำว่าสิ่งแวดล้อมทางการตลาด

ก. สิ่งแวดล้อมภายในและสิ่งแวดล้อมภายนอกที่มีอิทธิพลและผลกระทบต่อการบริหาร การตลาด

ข. สิ่งแวดล้อมที่มุ่งสร้างภาพพจน์ที่ดีให้กับสินค้าหรือบริษัทในระยะยาว

ค. สิ่งแวดล้อมที่เป็นกิจกรรมสื่อสารมวลชนที่มุ่งจูงใจให้ผู้บริโภครู้จักสินค้า

ง. ถูกทุกข้อ

20. คำว่า “SWOT Analysis” หมายถึงข้อใด

ก. บทบาททางสังคมผู้บริโภค

ข. ภาวะที่อำนาจซื้อของประชาชนลดลง

ค. การวิเคราะห์และประเมินว่าธุรกิจมีจุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรคอย่างไร

ง. ภาวะที่ระดับราคาสูงขึ้นอย่างรวดเร็วกว่ารายได้ของผู้บริโภค

21. การที่องค์กรมีวัตถุประสงค์ที่จะสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า ถือว่าเป็นแนวความคิด ทางด้านใด

ก. แนวความคิดด้านการผลิต

ข. แนวความคิดด้านการขาย

ค. แนวความคิดด้านการตลาด

ง. แนวความคิดด้านการตลาดเพื่อสังคม

22. “โครงการหนังสือมือสองเพื่อน้องผู้ด้อยโอกาส” เป็นแนวความคิดทางการตลาดแบบใด

ก. แนวความคิดด้านการขาย

ข. แนวความคิดด้านการผลิต

ค. แนวความคิดด้านผลิตภัณฑ์

ง. แนวความคิดด้านการตลาดเพื่อสังคม

23. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง

ก. ส่วนประสมทางการตลาด ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ ราคา การจัดจำหน่าย การส่งเสริมการขาย

ข. SWOT Analysis ได้แก่ จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส อุปสรรค

ค. Promotion Mix ได้แก่ Advertising, Public Relations, Sales Promotion, Personal Selling

ง. Marketing Mix ได้แก่ Product, Price, Place, Promotion

24. ข้อใดคือสิ่งแวดล้อมปัจจัยภายในที่สามารถควบคุมได้

ก. คู่แข่งขัน ข. ผลิตภัณฑ์

ค. ลูกค้า ง. วัฒนธรรม

25. การวิเคราะห์ข้อดีของสิ่งที่อยู่ภายในกิจการ หมายถึงข้อใด

ก. อุปสรรค ข. โอกาส

ค. จุดแข็ง ง. จุดอ่อน

26. ข้อใดกล่าวถูกต้อง

ก. การแบ่งส่วนการตลาด ประกอบด้วย 4 ระดับ

ข. การตลาดท้องถิ่น คือ การจำกัดกลุ่มตลาดให้เล็กและแคบลง

ค. การแบ่งส่วนตลาด หมายถึง การจัดเตรียมผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับกลุ่มลูกค้าที่เลือกขึ้นมา

ง. ข้อ ก และ ข ถูก

27. การตลาดลักษณะใดที่มุ่งขายให้กับลูกค้าคนใดคนหนึ่ง

ก. การตลาดที่มุ่งที่ตลาดกลุ่มเล็ก

ข. การตลาดท้องถิ่น

ค. การตลาดลูกค้ารับผิดชอบตนเอง

ง. การตลาดมุ่งเฉพาะบุคคล

28. ข้อใดคือลักษณะการแบ่งตลาดตามหลักภูมิศาสตร์

ก. การแบ่งเขตตลาดตามหลักการแบ่งพื้นที่เป็นสำคัญ

ข. การพิจารณาจากอิทธิพลต่อการสร้างแรงจูงใจในการตัดสินใจซื้อ

ค. การใช้เพศ อายุ รายได้ ขนาดครอบครัว การศึกษา เป็นเกณฑ์ในการกำหนด กลุ่มเป้าหมาย

ง. ถูกทุกข้อ

29. การแบ่งเขตตลาดลักษณะใดที่ใช้เกณฑ์ความรู้ ทัศนคติ และการตอบสนองเป็นสำคัญ

ก. การแบ่งตลาดตามลักษณะภูมิศาสตร์

ข. การแบ่งตลาดตามหลักพฤติกรรม

ค. การแบ่งตลาดตามหลักทางสังคมและจิตวิทยา

ง. การแบ่งตลาดตามหลักประชากรศาสตร์



30. ข้อใดกล่าวถูกต้องสำหรับหลักเกณฑ์การแบ่งส่วนตลาดอุตสาหกรรม

ก. การแบ่งตลาดอุตสาหกรรมส่วนใหญ่จะใช้หลักเกณฑ์เดียวกันกับตลาดผู้บริโภค

ข. การแบ่งตลาดอุตสาหกรรมจะแบ่งตามลักษณะประชากรศาสตร์

ค. การแบ่งตลาดอุตสาหกรรมจะแบ่งตามตัวแปรการดำเนินงาน

ง. ถูกทุกข้อ

31. การแบ่งส่วนตลาดตามลักษณะภูมิศาสตร์คือข้อใด

ก. เพศ ข. อายุ

ค. อาชีพ ง. ความหนาแน่น

32. การประกอบธุรกิจผลิตสินค้าเพื่อจำหน่าย เจ้าของธุรกิจต้องศึกษาเรื่องใดก่อน

ก. ต้นทุน ข. วัตถุดิบ

ค. ตลาดเป้าหมาย ง. ผลิตภัณฑ์

33. กลยุทธ์สำหรับผู้เจาะตลาด เกี่ยวข้องกะผู้ใด

ก. อัตราการบริโภค ข. การพัฒนาตนเองให้ชำนาญ

ค. ส่วนแบ่งการตลาด ง. การเลือกตาม

34. กลยุทธ์ที่พยายามนำผลิตภัณฑ์ไปขายในสถานที่ใหม่ๆ คือข้อใด

ก. กลยุทธ์เชิงภูมิศาสตร์ ข. กลยุทธ์ตลาดผู้นำ

ค. กลยุทธ์ผู้ตามตลาด ง. กลยุทธ์ผู้ท้าชิง

35. การแบ่งส่วนตลาดตามลักษณะพฤติกรรม

ก. เกลียด ไม่ชอบ ภูมิใจ ข. ซื่อตรง มีระเบียบ

ค. วัยรุ่น หนุ่มสาว ง. เขตหนาว เขตอบอุ่น

36. ข้อใดคือลักษณะของผู้บริโภค

ก. บุคคลที่มีความต้องการ ข. เป็นผู้ที่มีอำนาจซื้อ

ค. เกิดพฤติกรรมการซื้อ-การใช้ ง. ถูกทุกข้อ

37. ข้อใดคือลักษณะของผู้ที่มีอำนาจซื้อ

ก. ผู้บริโภคเกิดความต้องการและมีอำนาจซื้อ

ข. ผู้บริโภคจะมีเพียงแค่ความต้องการซื้ออย่างเดียว

ค. ผู้บริโภคจะมีเพียงแค่ความต้องการอย่างเดียวไม่ได้ แต่ต้องสามารถซื้อได้

ง. ผู้บริโภคมีความต้องการในผลิตภัณฑ์ของธุรกิจ

38. ทฤษฎีลำดับขั้นตอนความต้องการของมาสโลว์มีกี่ขั้นตอน

ก. 5 ขั้นตอน ข. 6 ขั้นตอน

ค. 7 ขั้นตอน ง. 8 ขั้นตอน







39. ข้อใดคือความต้องการขั้นพื้นฐานของทฤษฎีมาสโลว์

ก. ความต้องการความรักและการยอมรับ

ข. ความต้องการด้านร่างกาย

ค. ความต้องการการยกย่องนับถือ

ง. ความต้องการความปลอดภัยและมั่นคง

40. การที่มนุษย์เกิดความภาคภูมิใจหากได้รับการยอมรับคือความต้องการข้อใด

ก. ความต้องการทางด้านร่างกาย ข. ต้องการความรักและการยอมรับ

ค. ความต้องการการยกย่องนับถือ ง. ความต้องการความสำเร็จในชีวิต

41. การวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้บริโภคเป็นการวิจัยพฤติกรรมอะไร

ก. พฤติกรรมการใช้ของผู้บริโภค

ข. พฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภค

ค. พฤติกรรมความต้องการของผู้บริโภค

ง. ข้อ ก และ ข ถูก

42. แบบจำลองพฤติกรรมของผู้บริโภคเป็นการศึกษาเรื่องใด

ก. การศึกษาถึงเหตุจูงใจที่ทำให้เกิดการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์

ข. กระบวนการการตัดสินใจซื้อสินค้าของผู้บริโภค

ค. การศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภค

ง. ทฤษฎีความต้องการของมาสโลว์

43. ข้อใดหมายถึงผู้บริโภค

ก. บุคคลที่หาข้อมูลผลิตภัณฑ์ของธุรกิจ

ข. บุคคลที่เห็นโฆษณาผลิตภัณฑ์ของธุรกิจ

ค. บุคคลที่ซื้อผลิตภัณฑ์ของธุรกิจ

ง. บุคคลที่พอใจผลิตภัณฑ์ของธุรกิจ

44. กระบวนการแรกของการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคได้แก่ข้อใด

ก. แสวงหาภายใน ข. ประเมินทางเลือก

ค. แสวงหาภายนอก ง. การมองเห็นปัญหา

45. ข้อใดเป็นวิธีการแสวงหาภายนอก

ก. การถามพนักงานขาย ข. การดูโฆษณา

ค. การไป ณ จุดขาย ง. ถูกทุกข้อ











46. ข้อใดกล่าวถูกเกี่ยวกับการประเมินทางเลือก

ก. การประเมินทางเลือกเกิดขึ้นหลังการแสวงหาข้อมูลแล้ว

ข. นักการตลาดต้องพยายามหามาตรการในการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค

ค. การปรับเปลี่ยนสินค้าให้ตรงกับมาตรการการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคง่ายกว่า การเปลี่ยนมาตรการของผู้บริโภค

ง. กล่าวถูกทุกข้อ

47. ข้อใดเป็นสิ่งกระตุ้นที่ควบคุมไม่ได้

ก. สิ่งกระตุ้นทางเศรษฐกิจ

ข. สิ่งกระตุ้นด้านราคา

ค. สิ่งกระตุ้นด้านผลิตภัณฑ์

ง. สิ่งกระตุ้นด้านช่องทางการจัดจำหน่าย

48. คำว่า “จรรยาบรรณ” ตามความหมายพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานคือข้อใด

ก. กริยาที่ควรปฏิบัติ

ข. หลักศีลธรรมและค่านิยมที่คนแต่ละกลุ่มใช้เป็นฐานอ้างอิง

ค. หนังสือแสดงความประพฤติ

ง. ประมวลความประพฤติที่ผู้ประกอบอาชีพการงานแต่ละอย่างกำหนดขึ้น

49. ข้อใดคือจรรยาบรรณในการประกอบอาชีพที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า

ก. รักษาภาพพจน์ ชื่อเสียงของกิจการ

ข. มีสัมพันธภาพที่ดีกับคู่แข่งขัน

ค. การส่งมอบสินค้าให้ตรงเวลา

ง. มีความเชื่อมั่นต่อกิจการหรือเจ้าของกิจการ

50. ข้อใดคือความหมายของคำว่า “จริยธรรม”

ก. การยึดมั่นความซื่อสัตย์สุจริตในการประกอบธุรกิจ

ข. ระเบียบแบบแผนหรือข้อปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับการกระทำ

ค. การกระทำหรือข้อตกลงใดๆของบริษัท

ง. ถูกทุกข้อ

51. จากคำตอบข้อ 50 ข้อใดคือความหมายของคำว่า “จริยธรรมทางธุรกิจ”

ก. การยึดมั่นความซื่อสัตย์สุจริตในการประกอบธุรกิจ

ข. ระเบียบแบบแผนหรือข้อปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับการกระทำ

ค. การกระทำหรือข้อตกลงใดๆของบริษัท

ง. ถูกทุกข้อ







52. ผู้มีอาชีพนักการตลาดควรมีคุณสมบัติในข้อใด

ก. ความสามารถ ความสำเร็จ ความรับผิดชอบ

ข. ความรับผิดชอบ ความชอบและความไม่พอใจ ความสามารถ

ค. ความสำเร็จ ความต้องการและสิ่งจูงใจ ความรับผิดชอบ

ง. ความสำเร็จ ความสามารถ วัตถุประสงค์ส่วนตัว

53. นักการตลาดควรยึดถือความโปร่งใสในการดำเนินธุรกิจ คือจรรยาบรรณที่เกี่ยวข้องกับ ข้อใด

ก. จรรยาบรรณที่เกี่ยวข้องกับคู่แข่งขัน

ข. จรรยาบรรณที่เกี่ยวข้องกับสังคม

ค. จรรยาบรรณที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า

ง. จรรยาบรรณที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย

54. จริยธรรมของนักการตลาดประกอบด้วยในข้อใด

ก. ความรับผิดชอบต่อสังคม ความรับผิดชอบต่อตนเอง

ข. ความรับผิดชอบต่อลูกค้า ความรับผิดชอบต่อกิจการ

ค. ความรับผิดชอบต่อคู่แข่งขัน ความรับผิดชอบต่อกฎหมาย

ง. ถูกทุกข้อ

55. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง

ก. บริษัทจะเสนอและรับสินบนไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมเพื่อให้เกิดประโยชน์ใน การดำเนินธุรกิจ

ข. การกระทำหรือข้อตกลงใดๆ ของบริษัทจะต้องทำอย่างถูกต้องและเป็นธรรม

ค. พนักงานทุกคนต้องหลีกเลี่ยงความขัดแย้งระหว่างประโยชน์ส่วนตนกับหน้าที่ ความรับผิดชอบ

ง. บริษัทจะต้องทำอย่างถูกต้องและเป็นธรรมโดยยึดหลักเกณฑ์ของบริษัทและสามารถตรวจสอบได้

56. ข้อใดเป็นองค์ประกอบของผลิตภัณฑ์ที่สามารถสัมผัสได้

ก. แนวความคิด ข. การให้บริการ

ค. บรรจุภัณฑ์ ง. ภาพพจน์

57. ข้อใดให้ความหมายของคำว่าผลิตภัณฑ์ได้ถูกต้อง

ก. สินค้าที่ผู้บริโภคทำการซื้อบ่อยครั้ง

ข. สินค้าที่ผู้บริโภคซื้อไปใช้ในชีวิตประจำวัน

ค. สินค้าที่ผู้ซื้อมิได้วางแผนการซื้อสำหรับการซื้อในแต่ละครั้ง

ง. สิ่งที่เสนอขายให้กับตลาด สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้





58. หนังสือพิมพ์เป็นสินค้าอุปโภคบริโภคชนิดใด

ก. สินค้าสะดวกซื้อ ข. สินค้าหลักที่จำเป็น

ค. สินค้าที่ซื้อเฉพาะหน้า ง. สินค้าที่ซื้อตามความต้องการเร่งด่วน

59. สินค้าที่ซื้อตามความต้องการเร่งด่วนคือสินค้าในข้อใด

ก. ผ้าอนามัย , ยาสีฟัน ข. น้ำปลา , ผงซักฟอก

ค. ผ้าอนามัย , พาสเตอร์ปิดแผล ง. พาสเตอร์ปิดแผล , ผงซักฟอก

60. สินค้าที่ซื้อเพื่อใช้ในการผลิต การให้บริการคือข้อใด

ก. สินค้าอุปโภค-บริโภค ข. สินค้าอุตสาหกรรม

ค. สินค้าเจาะจงซื้อ ง. สินค้าหลักที่จำเป็น

61. เหมืองแร่ เป็นวัตถุดิบชนิดใด

ก. ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ ข. ผลิตภัณฑ์เกษตรกรรม

ค. วัสดุและชิ้นส่วนประกอบ ง. ข้อ ก และ ข ถูก

62. คอมพิวเตอร์เป็นกลุ่มสินค้าประเภทใด

ก. กลุ่มวัตถุดิบและชิ้นส่วนประกอบ ข. กลุ่มสินค้าประเภททุน

ค. กลุ่มวัสดุสิ้นเปลืองและบริการ ง. ถูกทุกข้อ

63. เครื่องฟอกอากาศ จัดเป็นสินค้าประเภทใด

ก. สินค้าสะดวกซื้อ ข. สินค้าไม่แสวงซื้อ

ค. สินค้าเจาะจงซื้อ ง. สินค้าเปรียบเทียบซื้อ

64. ข้อใดจัดเป็นลักษณะของตลาดอุตสาหกรรม

ก. โรงงานมักตั้งอยู่ใกล้ชุมชน ข. มีผู้ซื้อจำนวนมาก

ค. ซื้อเพื่อใช้ในครอบครัว ง. ซื้อครั้งละมากๆ

65. ข้อใดจัดกลุ่มได้ถูกต้องตามลักษณะของสายผลิตภัณฑ์ Product Line

ก. หนังสือ ขนมปัง ปากกา ข. โทรศัพท์ ไมโครเวฟ เครื่องซักผ้า

ค. น้ำตาล กาแฟ คอฟฟี่เมท ง. ผงชูรส เสื้อผ้า แชมพู

66. ข้อใดหมายถึงเครื่องหมายการค้า

ก. Trade Mark ข. Trade Name

ค. Brand Mark ง. Brand Name

67. รศ. ศิริวรรณ เสรีรัตน์ ได้ให้ความหมายของคำว่าราคาในข้อใด

ก. มูลค่าของสินค้าและบริการในรูปแบบของตัวเงิน

ข. ราคาที่กำหนดขึ้นโดยความต้องการซื้อ

ค. ราคาที่กำหนดขึ้นโดยความต้องการขาย

ง. ถูกทุกข้อ





68. ข้อใดไม่ใช่วัตถุประสงค์ในการตั้งราคา

ก. เพื่อให้มีรายได้เพิ่มขึ้น ข. เพื่อเพิ่มเงินสดหมุนเวียน

ค. เพื่อความหลากหลายในสินค้า ง. เพื่อให้ได้กำไรสูงสุด

69. วัตถุประสงค์ในการตั้งราคาเพื่อรักษาส่วนครองตลาดคือข้อใด

ก. การกำหนดราคาให้เท่ากับคู่แข่งหรือต่ำกว่าคู่แข่ง

ข. การกำหนดราคาที่มั่นใจได้ว่าจะทำให้ยอดขายของบริษัทมีสัดส่วนของ การครองตลาดเท่าเดิม

ค. การลดราคาสินค้าลงมาเพื่อรักษาสถานการณ์ของธุรกิจให้อยู่รอด

ง. การปรับปรุงราคาและให้ส่วนลดเพื่อเป็นการกระตุ้นลูกค้าเก่าให้ซื้อมากขึ้น

70. การตั้งราคาแบบ F.O.B. เป็นการกำหนดราคาแบบใด

ก. การกำหนดราคาสินค้า ณ จุดผลิตโดยไม่รวมค่าขนส่ง

ข. การตั้งราคาซึ่งผู้ขายจะต้องจ่ายค่าขนส่งไปจนถึงที่ตั้งของผู้ซื้อ

ค. การตั้งราคาโดยกำหนดจังหวัดใดจังหวัดหนึ่งเป็นจุดฐาน

ง. ผู้ซื้อที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ต่างกัน จะซื้อสินค้าในราคาที่ต่างกัน

71. การตั้งราคาในเทศกาลพิเศษเป็นการตั้งราคาเพื่อเหตุใด

ก. การตั้งราคาโดยให้ส่วนลดและส่วนยอมให้

ข. การตั้งราคาตามภูมิศาสตร์

ค. การตั้งราคาตามหลักจิตวิทยา

ง. การตั้งราคาเพื่อการส่งเสริมการตลาด

72. การกำหนดราคาสำหรับสินค้าที่เสื่อมความนิยมคือข้อใด

ก. การตั้งราคาล่อใจ

ข. การตั้งราคา ณ ระดับราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาด

ค. เปลี่ยนตำแหน่งของสินค้าเสียใหม่แล้วขึ้นราคาของสินค้า

ง. การตั้งราคาระดับต่ำหรือราคาเจาะตลาด

73. ในสายตาของลูกค้า ข้อใดคือราคาที่เหมาะสม

ก. ราคาต้องกำหนดตามต้นทุน

ข. ราคาต้องกำหนดตามคู่แข่งขัน

ค. ราคาต้องกำหนดขึ้นโดยความต้องการซื้อ

ง. ราคาต้องสอดคล้องกับคุณค่าของผลิตภัณฑ์

74. บางครั้งธุรกิจจำเป็นต้องลดราคาสินค้าให้ต่ำลง ดีกว่าการเลิกกิจการเพื่อวัตถุประสงค์ข้อใด

ก. เพื่อเพิ่มเงินสดหมุนเวียน

ข. เพื่อเพิ่มส่วนครองตลาด

ค. เพื่อดำรงการดำเนินธุรกิจต่อไป

ง. เพื่อต้องการรายได้จากการขาย

75. การตั้งราคาสินค้าให้สูงเพื่อแสดงถึงคุณค่าของสินค้าและความมีคุณภาพดีของสินค้า เป็นวัตถุประสงค์ในการกำหนดราคาข้อใด

ก. เพื่อมุ่งด้านสังคม ข. เพื่อสร้างภาพลักษณ์

ค. เพื่อสร้างยอดขาย ง. เพื่อรักษาส่วนครองตลาด

76. การตั้งราคาโดยถือเกณฑ์อุปสงค์ มีความหมายตรงกับข้อใด

ก. การตั้งราคาโดยดูจากความต้องการของผู้บริโภค

ข. ตั้งราคาโดยคำนวณจากต้นทุน

ค. การตั้งราคาโดยมุ่งที่การแข่งขัน

ง. ไม่มีข้อใดถูก

77. การตั้งราคาโดยถือเกณฑ์ต้นทุนต้องอาศัยสิ่งใดเข้ามาช่วยในการวิเคราะห์

ก. เงินลงทุน ข. กำไรของกิจการ

ค. ความคิดของผู้บริหาร ง. รายได้ของกิจการ

78. ผู้ผลิตบางรายไม่สามารถใช้ช่องทางการจัดจำหน่ายทางตรงได้จึงต้องอาศัยบุคคลในข้อใด

ก. ผู้ซื้อ ข. คนกลาง

ค. ผู้จำหน่าย ง. ทุกข้อที่กล่าวมา

79. ข้อใดคือหน้าที่ของคนกลางในการจัดจำหน่าย

ก. ขายสินค้า ข. ส่งเสริมการตลาด

ค. ช่วยลดภาระด้านการเงิน ง. ถูกทุกข้อ

80. กิจกรรมในการเคลื่อนย้ายผลิตภัณฑ์จากแหล่งผลิตไปยังผู้ใช้ขั้นสุดท้ายคือกิจกรรมใด

ก. กิจกรรมการขายสินค้า ข. การกระจายสินค้า

ค. ส่งเสริมการตลาด ง. การวิจัยตลาด

81. จุดสั่งซื้อที่ประหยัดที่สุดคือจุดใด

ก. ค่าใช้จ่ายในการสั่งซื้อสูง ค่าใช้จ่ายในการรักษาต่ำ

ข. ค่าใช้จ่ายในการสั่งซื้อต่ำ ค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาสูง

ค. ค่าใช้จ่ายในการสั่งซื้อ และค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษารวมกันต่ำสุด

ง. ข้อ ก และ ข ถูก

82. วิธีการในการขนส่งสินค้ามีกี่วิธี

ก. 4 วิธี ข. 5 วิธี

ค. 6 วิธี ง. 7 วิธี

83. ข้อใดไม่เกี่ยวข้องกับคำว่า “ช่องทางอ้อม”

ก. คนกลาง ข. พ่อค้าส่ง

ค. พ่อค้าปลีก ง. ผู้ผลิตสู่ผู้บริโภค



84. คนกลางที่นำผู้ซื้อและผู้ขายให้มาพบกัน และเจรจาให้เกิดการซื้อขาย ไม่มีสินค้าไว้ใน ครอบครองไม่ต้องรับภาระด้านการเงิน หมายถึงข้อใด

ก. นายหน้า ข. พ่อค้าส่ง

ค. ตัวแทนขาย ง. ตัวแทนผู้ผลิต

85. ผู้ผลิตในข้อใดสามารถใช้วิธีการจัดจำหน่ายทางตรงได้

ก. ผู้ผลิตมีทุนน้อย

ข. ผู้ผลิตที่ขาดประสบการณ์ด้านการตลาด

ค. ผู้ผลิตที่มีจำนวนบุคลากรในองค์กรน้อย

ง. ไม่มีผู้ผลิตข้อใดใช้วิธีการจัดจำหน่ายทางตรงได้

86. ข้อใดเป็นค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาสินค้า

ก. ค่าเอกสาร ข. ค่าประกันภัย

ค. ค่าโทรศัพท์ ง. ไม่มีข้อใดถูก

87. กิจกรรมที่เกิดขึ้นหลังจากได้รับคำสั่งของลูกค้าแล้วต้องจัดเตรียมใบกำกับสินค้าไปยังแผนกที่เกี่ยวข้องให้จัดเตรียมสินค้าต่อไป หมายถึงข้อใด

ก. การขนส่ง ข. การจัดการวัสดุ

ค. การคลังสินค้า ง. กระบวนการสั่งซื้อ

88. การจัดการเกี่ยวกับการเคลื่อนย้ายสินค้า วัสดุภายในคลังสินค้าและการเคลื่อนย้ายระหว่างการขนส่ง หมายถึงข้อใด

ก. การขนส่ง ข. การจัดการวัสดุ

ค. การคลังสินค้า ง. กระบวนการสั่งซื้อ

89. สินค้าที่มีขนาดใหญ่ น้ำหนักมาก ขนส่งระยะไกล ควรเลือกการขนส่งวิธีใด

ก. ทางอากาศ ข. ทางรถไฟ

ค. ทางรถบรรทุก ง. ทางน้ำ

90. การขนส่งทางใดเป็นบริการแบบ Door to Door Service

ก. ทางน้ำ ข. ทางรถไฟ

ค. ทางอากาศ ง. ทางรถบรรทุก

91. ข้อใดเป็นกลยุทธ์การส่งเสริมการตลาดแบบผลัก

ก. กระตุ้นให้คนกลางสั่งซื้อสินค้าไว้มากๆ เช่น ซื้อสินค้า 3 ลัง แถม 1 ลัง

ข. ใช้การโฆษณาร่วมกับการส่งเสริมการขาย

ค. การจัดประกวดร้านค้าเพื่อให้ร้านค้าปลีกนำสินค้ามาวางขาย

ง. ถูกทุกข้อ







92. ข้อใดคือข้อดีของการใช้สื่อวิทยุโทรทัศน์ในการโฆษณาสินค้า

ก. สามารถเปลี่ยนช่องได้เร็ว

ข. มีข้อจำกัดทางกฎหมายมาก

ค. เปลี่ยนเคลื่อนได้ง่าย

ง. เทคโนโลยีสูง สามารถดึงดูดใจผู้ชมให้ดูโฆษณาจนจบได้

93. ข้อเสียของการใช้หนังสือพิมพ์เป็นสื่อโฆษณาสินค้าคือข้อใด

ก. ราคาของหนังสือพิมพ์ถูก

ข. หาซื้อได้ง่าย

ค. ทันต่อเหตุการณ์

ง. อายุการใช้งานสั้น วันต่อวัน สัปดาห์ต่อสัปดาห์

94. การสนับสนุนในรูปของตัวเงิน สั่งของหรือให้ความร่วมมือด้านสถานที่จัดกิจกรรมเป็น การประชาสัมพันธ์กิจกรรมประเภทใด

ก. การจัดรายการบันเทิง ข. การเป็นสปอนเซอร์

ค. การจัดแข่งขัน ง. การจัดประกวด

95. ข้อใดเป็นการส่งเสริมการขายที่มุ่งสู่ผู้บริโภค

ก. การแจกของตัวอย่าง ข. เงินรางวัล

ค. การให้เงินค่าเชียร์สินค้า ง. ถูกทุกข้อ

96. ข้อใดไม่ใช่ความหมายของการโฆษณา

ก. เป็นการโฆษณาชวนเชื่อ

ข. เป็นการจูงใจ

ค. เป็นกิจกรรมสื่อสารมวลชน

ง. ซื้อเนื้อที่และเวลาในสื่อมวลชน

97. สื่อโฆษณาในข้อใดไม่ควรเขียนบรรยายสรรพคุณรายละเอียดของสินค้าลงในสื่อ

ก. หนังสือพิมพ์ ข. ไปรษณีย์

ค. ข้างรถประจำทาง ง. นิตยสาร

98. ข้อใดกล่าวถูกต้อง

ก. การโฆษณาให้ผลช้ากว่าการประชาสัมพันธ์

ข. การประชาสัมพันธ์ช่วยสร้างภาพพจน์ที่ดีให้กับกิจการ

ค. การโฆษณากับการประชาสัมพันธ์มีลักษณะเหมือนกัน

ง. การประชาสัมพันธ์เป็นงานที่สิ้นเปลืองงบประมาณและเปล่าประโยชน์

99. ข้อใดไม่ใช่ลักษณะของการส่งเสริมการขาย

ก. ไม่หวังผลทางการค้า ข. จัดทำขึ้นในระยะสั้น

ค. ช่วยสนับสนุนการขาย ง. เป็นกิจกรรมที่มีข้อเสนอพิเศษ



100. สินค้าประเภทใดที่เหมาะสมกับการส่งเสริมการขายโดยใช้หีบห่อส่วนเพิ่มมากที่สุด

ก. กาแฟผง ข. นมข้นหวาน

ค. น้ำปลา ง. น้ำมันพืช

วันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2554

7 กระบวนท่า ทำซะ ! ก่อน Google จะเมิน (เว็บ) คุณ

7 กระบวนท่า ทำซะ ! 
ก่อน Google จะเมิน (เว็บ) คุณ

บางท่านอาจสงสัย ไหงเราถึงให้แค่ 7 กระบวนท่า ทั้งที่วิธีการทำ SEO มีตั้งมากมายหลายกระบุง เอ๊ะ! มันจะมั่วอ๊ะปล่าวหว่า ???
สำหรับข้อมูลที่เรานำเสนอจากนี้ไปจะเป็นการค้นคว้า ปฏิบัติ ขอยืมจากเว็บที่รวบรวมเรื่องราวเกี่ยวกับการทำ Search Engine Optimization ทั้งไทยและเทศ และตัวผู้เขียนเองก็ลงมือทำเอง
มานานแล้ว ก็เห็นว่าได้ผล จึงทำการ สรุป
เป็นกระบวนยุทธ์ที่เข้าใจได้ไม่ยากมอบให้สำหรับมือใหม่ ในการโปรโมทเว็บโดยเฉพาะ แต่มือโปรฯ จะอ่านก็ไม่ว่าอะไร
สำหรับชื่อกระบวนท่าทั้ง 7 นี้จะประกอบด้วย
    • กระบวนท่าที่ 1 : 
    • รู้เขา รู้เรา รบมิรู้พ่าย
    •  (website Analysis and SEO Plan)
    • จะว่าด้วยเรื่องการศึกษาวิเคราะห์เว็บไซต์ทั้งของเราและของคู่แข่ง รวมทั้งวางแผนด้านการทำ organic search optimization สำหรับ Google เพื่อไม่ให้ตกอันดับในหน้าแรกของผลการค้นหา

    • กระบวนท่าที่ 2 :
    •  เลือก Keyword ผิดคิดจนตัวตาย(Keyword Selection)
    • จะว่าด้วยเรื่องการเลือก keyword ซึ่งจะช่วยให้ท่านเลือก keyword ที่จะใช้ทำ SEO ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม

    • กระบวนท่าที่ 3 : 
    • หน้าตาแบบนี้หนูชอบ(On-page Optimization: copywriting & web design)
    • บอกเล่าถึง เนื้อหาบนเว็บและหน้าตาของเว็บเพจที่ google ชอบและไม่ชอบ เหมือนกับสุภาษิตที่ว่า "คบคนให้ดูหน้า ล่าตำแหน่งให้ดูเนื้อ(หา)" จะปรับแต่งเว็บทั้งทีก็ให้ต้องใจหนู Google เค้าหน่อย 

    • กระบวนท่าที่ 4 : คบเพื่อนดีไว้ไม่เสียหลาย (Off-page Optimization หรือ Link Building)
    • ว่าด้วยเรื่องคบเว็บพันธมิตร เพื่อเพิ่ม link popularity ที่มีความสำคัญต่อการติดอันดับของเว็บคุณอย่างมาก

    • กระบวนท่าที่ 5 :
    •  โกงเค้าเราเจ็บเอง
    •  (SEO Spamming Avoidance) 
    • หากคุณคิดจะใช้วิชามารทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจเพื่อให้ติดอันดับ ลองพิจารณากระบวนท่านี้ดูหน่อยเป็นไง เพราะวิชามารที่คุณทำ อาจทำให้คุณกระอัก ธาตุไฟเข้าแทรก บางที อาจต้องรักษาเป็นเดือน ๆ ๆ ๆ..

    • กระบวนท่าที่ 6 :
    •  ติดแล้วต้องหมั่น track
    •  (tracking your website) 
    • ลงทุนฝึกวิชาทั้งที ก็ต้องการเห็นผลลัพท์ว่าให้คนเข้าเว็บเรามากขึ้น รู้จักเว็บเรามากขึ้น ใช่จะทำแล้วทิ้ง กระบวนนี้จะสรุปวิธีการเช็คว่า ทำไปแล้วผลดีไม่ดี 
    • ได้ผลตามต้องการมั้ย 
    • มีคนเข้าเว็บมากขึ้นมั้ย

    • กระบวนท่าที่ 7 :
    •  หมั่นคอย ดูแล และรักษาอันดับ
    • (Maintain ranking)
    • ทุกวินาที มีเว็บไซต์มากมายอยากเป็นเจ้ายุทธภพเช่นคุณ เผลอนิดเดียว

    • คุณมีสิทธิตกบัลลังก์ได้


      • ฉะนั้น กระบวนท่านี้สมควรอ่านอย่างยิ่ง