หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2552

แนวข้อสอบกลางภาค ปวส. วิชาหลักการตลาด

1. ข้อใดเป็นการส่งเสริมการตลาด (Product Mix)
ก. การบรรจุหีบห่อ ข. การใช้พนักงานขาย
ค. ระยะเวลาการชำระเงิน ง. การขนส่ง
2. ข้อใดไม่ใช่องค์ประกอบของปัจจัยที่ควบคุมได้
ก. การจัดจำหน่าย ข. ผลิตภัณฑ์
ค. การส่งเสริมการตลาด ง. การเมือง
3. ข้อใดไม่ใช่องค์ประกอบของปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้
ก. ราคา ข. การแข่งขัน
ค. เทคโนโลยี ง. ภาวะเศรษฐกิจ
4. นโยบายและกลยุทธ์เกี่ยวข้องกับเรื่องใด
ก. Promotion Mix ข. Price Mix
ค. Place Mix ง. Product Mix
5. การคิดผลิตภัณฑ์ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมเป็นแนวความคิดด้านใด
ก. ด้านผลิตภัณฑ์ ข. ด้านการผลิต
ค. ด้านการขาย ง. ด้านการตลาดเพื่อสังคม
6. ข้อใดเป็นภาวะเงินเฟ้อ (Inflotion)
ก. ระดับราคาสินค้าสูงขึ้นอย่างรวดเร็วกว่ารายได้ของผู้บริโภค
ข. อำนาจการซื้อสินค้ามีมากขึ้น
ค. ต้นทุนการผลิตถูกลงอย่างรวดเร็ว
ง. ถูกทุกข้อ
7. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก. Marketing Mix ได้แก่ Product, Price, Place, Promotion
ข. SWOT Analysis ได้แก่ Strengths, Weaknesses, Opportunities, Technology
ค. Promotion Mix ได้แก่ Advertising, Public Relations, Sales Promotion, Personal Selling
ง. ปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ ได้แก่ กฎหมาย , วัฒนธรรม , ประชากร , สิ่งแวดล้อม
8. “ทัศนคติที่ดีต่อสินค้าของผู้บริโภค” จัดอยู่ในข้อใด
ก. จุดแข็ง ข. จุดอ่อน
ค. โอกาส ง. อุปสรรค
9. ข้อใดเป็นการแบ่งส่วนตลาดตามหลักทางสังคมและจิตวิทยา
ก. บุคลิกภาพ ข. ทัศนคติ
ค. ความพร้อม ง. ความซื่อสัตย์
10. การแบ่งเขตตลาดภาคเหนือ , อีสาน , ใต้ , กลาง เป็นการแบ่งตลาดตามข้อใด
ก. ตามหลักภูมิศาสตร์ ข. ตามหลักประชากรศาสตร์
ค. ตามหลักทางสังคมและจิตวิทยา ง. ตามหลักพฤติกรรม
11. การแบ่งตลาดตามการศึกษา , รายได้ , เชื้อชาติ เป็นการแบ่งตามข้อใด
ก. ตามหลักภูมิศาสตร์ ข. ตามหลักประชากรศาสตร์
ค. ตามหลักทางสังคมและจิตวิทยา ง. ตามหลักพฤติกรรม
12. ข้อใดคือลักษณะการตลาดที่ไม่แตกต่าง (Undifferentiated Marketing)
ก. การผลิตในรูปแบบมาตรฐานเดียวกัน และผลิตจำนวนน้อย
ข. การผลิตในรูปแบบมาตรฐานแตกต่าง และผลิตจำนวนมาก
ค. การผลิตในรูปแบบมาตรฐานเดียวกัน และผลิตจำนวนมาก
ง. การผลิตในรูปแบบมาตรฐานเดียวกัน และผลิตจำนวนน้อย
13. “การป้องกันส่วนครองตลาด” เป็นกลยุทธ์การตลาดแบบใด
ก. การตลาดผู้นำ ข. การตลาดคู่ชิง
ค. การตลาดอยู่ตาม ง. การตลาดของธุรกิจรายย่อย
14. “การโจมตีคู่แข่งขันที่เล็กกว่า” เป็นกลยุทธ์การตลาดแบบใด
ก. การตลาดผู้นำ ข. การตลาดคู่ชิง
ค. การตลาดอยู่ตาม ง. การตลาดของธุรกิจรายย่อย
15. ข้อใดเป็นทฤษฎีลำดับขั้นความต้องการของมาสโลว์ลำดับแรก
ก. ต้องการความปลอดภัย ข. การยกย่องนับถือ
ค. ต้องการด้านร่างกาย ง. ต้องการความรักและยอมรับ
16. การลด, แลก, แจก, แถม เป็นสิ่งกระตุ้นด้านใด
ก. ด้านผลิตภัณฑ์ ข. ด้านราคา
ค. ด้านช่องทางการจำหน่าย ง. ด้านการส่งเสริมการตลาด
17. “ความต้องการการยกย่องนับถือ” อยู่ลำดับขั้นใดของทฤษฎีมาสโลว์
ก. ขั้นที่ 1 ข. ขึ้นที่ 2
ค. ขั้นที่ 3 ง. ขึ้นที่ 4
18. กระบวนการแรกของการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคได้แก่ข้อใด
ก. มองเห็นปัญหา ข. แสวงหาภายใน
ค. ประเมินทางเลือก ง. แสวงหาภายนอก
19. การส่งมอบสินค้าให้ตรงเวลา เป็นจรรยาบรรณที่เกี่ยวกับใคร
ก. ลูกค้า ข. กิจการ
ค. คู่แข่ง ง. สังคม
20. “ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าเพราะตรายี่ห้อโดยไม่คำนึงถึงราคา” เป็นสินค้าประเภทใด
ก. สะดวกซื้อ ข. เปรียบเทียบซื้อ
ค. เจาะจงซื้อ ง. ไม่แสวงซื้อ
21. “ประกันชีวิต” เป็นสินค้าประเภทใด
ก. สะดวกซื้อ ข. เปรียบเทียบซื้อ
ค. เจาะจงซื้อ ง. ไม่แสวงซื้อ
22. “วัสดุในการดำเนินงาน” (Operation Supplies) ได้แก่ข้อใด
ก. ตะปู หลอดไฟ ถ่านไฟฉาย ข. กระดาษ ยางลบ ดินสอ
ค. ไม้กวาด ไม้ถูพื้น น้ำยาขัดพื้น ง. แม่แรง เลื่อย สว่าน
23. “ตราสินค้าที่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย” คือข้อใด
ก. Brand Name ข. Brand Mark
ค. Trade Mark ง. Logo
24. “การแจ้งสรรพคุณ , วันเดือนปีที่ผลิต , ปริมาณสุทธิ” เป็นลักษณะของข้อใด
ก. โลโก้ ข. สโลแกน
ค. บรรจุภัณฑ์ ง. ฉลาก
25. ช่วงที่มีคู่แข่งขันเข้ามาในตลาดมาก เป็นวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ในช่วงใด
ก. Introduction Stage ข. Growth Stage
ค. Maturity Stage ง. Decline Stage
26. สินค้าอุตสาหกรรม ควรใช้กลยุทธ์การตลาดวิธีใด
ก. โฆษณาทีวี ข. หนังสือพิมพ์
ค. วิทยุ ง. พนักงานขายโดยตรง
27. ช่วงที่ตลาดยอมรับสินค้า บริษัทได้กำไรจำนวนมาก เป็นวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ในช่วงใด
ก. Introduction Stage ข. Growth Stage
ค. Maturity Stage ง. Decline Stage
28. กล่องใส่สินค้าที่ใช้เพื่อการขนส่งสินค้าไปยังปลายทางให้ปลอดภัย เป็นบรรจุภัณฑ์แบบใด
ก. ปฐมบรรจุภัณฑ์ ข. ทุติยบรรจุภัณฑ์
ค. ตติยบรรจุภัณฑ์ ง. บรรจุภัณฑ์ที่พิเศษ
29. ข้อใดเป็นลักษณะของตลาดอุตสาหกรรม
ก. ซื้อเพื่อใช้ในครอบครัว ข. ซื้อครั้งละมากๆ
ค. มีผู้ซื้อจำนวนมาก ง. โรงงานอยู่ใกล้ชุมชน
30. การซื้อสินค้าบ่อยครั้ง คุณภาพสินค้าใกล้เคียงกัน เป็นลักษณะสินค้าประเภทใด
ก. สินค้าสะดวกซื้อ ข. สินค้าเปรียบเทียบซื้อ
ค. สินค้าเจาะจงซื้อ ง. สินค้าไม่แสวงซื้อ
31. “การตั้งราคาสินค้าเพื่อรักษาภาวะการจ้างงาน” เป็นการตั้งราคาเพื่อวัตถุประสงค์ใด
ก. เพื่อมุ่งกำไร ข. การแข่งขัน
ค. มุ่งด้านสังคม ง. สร้างภาพลักษณ์
32. ข้อใดไม่ใช่การตั้งราคาตามภูมิศาสตร์
ก. การตั้งราคาส่งมอบราคาเดียว ข. การตั้งราคาตามเขต
ค. การให้ส่วนลดการค้า ง. การตั้งราคาขายแบบผู้ขายรับภาระค่าขนส่ง
33. “การกำหนดราคาสินค้า ณ. จุดผลิตหรือแหล่งผู้ขายโดยไม่รวมค่าขนส่ง” เป็นลักษณะการตั้งราคาแบบใด
ก. การตั้งราคาแบบ F.O.B. ข. การตั้งราคาตามเขต
ค. การตั้งราคาส่งมอบราคาเดียว ง. การตั้งราคาจากจุดฐานที่กำหนด
34. ข้อใดเป็นการตั้งราคาตามหลักจิตวิทยา
ก. การตั้งราคาระดับสูง ข. การตั้งราคาระดับต่ำ
ค. ตั้งราคาตามคู่แข่ง ง. ตั้งราคาด้วยเลขคี่
35. “การตั้งราคาสำหรับสินค้าที่เสื่อมความนิยม” จะทำในช่วงใดของวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์
ก. ขั้นแนะนำ ข. ขั้นเติบโต
ค. ขั้นอิ่มตัว ง. ขั้นถดถอย
36. การตั้งราคาสินค้าให้สูงเพื่อแสดงถึงคุณค่าของสินค้าและความมีคุณภาพดีของสินค้า เป็นวัตถุประสงค์ในการกำหนดราคาข้อใด
ก. เพื่อสร้างยอดขาย ข. เพื่อรักษาส่วนครองตลาด
ค. เพื่อมุ่งด้านสังคม ง. เพื่อสร้างภาพลักษณ์
37. ปริมาณการผลิตหรือปริมาณการขายที่มีผลทำให้รายได้ทั้งสิ้นเท่ากับต้นทุนทั้งสิ้นพอดี เป็นความหมายของข้อใด
ก. Mark up ข. Breakeven Point
ค. Demand ง. Supply
38. การให้ส่วนลดจากราคาขายที่ผู้ซื้อได้รับหากชำระเงินภายในเวลาที่กำหนด เป็นวัตถุประสงค์ของส่วนลดใด
ก. ส่วนลดการค้า ข. ส่วนลดปริมาณ
ค. ส่วนลดเงินสด ง. ส่วนลดตามฤดูกาล
39. ข้อใดเป็นลักษณะส่วนยอมให้สำหรับการเป็นนายหน้า
ก. เป็นค่าตอบแทนที่ผู้ขายให้แก่บุคคลที่เป็นคนกลางในการนำผู้ซื้อผู้ขายมาตกลงซื้อขาย กันได้
ข. เป็นค่าตอบแทนที่ผู้ขายให้ส่วนลดแก่คนกลาง
ค. เป็นการที่ผู้ขายให้ส่วนลดแก่ผู้ซื้อที่นำสินค้าเก่ามาแลกสินค้าใหม่
ง. ถูกทุกข้อ
40. การตั้งราคาสินค้าให้ต่ำกว่าต้นทุนเพื่อดึงดูดให้ลูกค้าเข้าร้าน เป็นวัตถุประสงค์ใด
ก. การตั้งราคาในเทศกาลพิเศษ ข. การตั้งราคาต่ำ
ค. การตั้งราคาล่อใจ ง. การตั้งราคาตามคู่แข่ง
41. การคลังสินค้า , การขนส่ง เกี่ยวข้องกับข้อใด
ก. ผลิตภัณฑ์ ข. ราคา
ค. การจัดจำหน่าย ง. การส่งเสริมการตลาด
42. การบรรจุหีบห่อ เกี่ยวข้องกับข้อใด
ก. ผลิตภัณฑ์ ข. ราคา
ค. การจัดจำหน่าย ง. การส่งเสริมการตลาด
43. การตลาดใช้เวลาในการเพิ่มคุณค่าให้กับสินค้าและบริการ โดยการนำสินค้ามาเก็บไว้เพื่อรอ ผู้ซื้อ เกี่ยวข้องกับข้อใด
ก. Form Utility ข. Time Utility
ค. Place Utility ง. Procession Utility
44. การท่าเรือแห่งประเทศไทย เกี่ยวข้องกับการศึกษาเรื่องใด
ก. เกี่ยวกับการผลิต ข. เกี่ยวกับสถาบันการค้า
ค. เกี่ยวกับหน้าที่ทางการตลาด ง. เกี่ยวกับสังคม
45. ป้ายโฆษณากลางแจ้ง (Cut Out) เป็นการส่งเสริมการตลาดด้านใด
ก. Advertising ข. Public Relations
ค. Sales Promotion ง. Personal Selling
46. ภาพพจน์ของสินค้าและบริษัทดี เกี่ยวข้องกับข้อใด
ก. จุดแข็ง ข. จุดอ่อน
ค. โอกาส ง. อุปสรรค
47. “เป็นตลาดที่มุ่งการผลิตจำนวนมาก รูปแบบเดียวกัน มีลักษณะการใช้แนวคิดเน้นที่การผลิต จึงทำให้ช่วยลดต้นทุน” เป็นลักษณะการตลาดใด
ก. ตลาดมวลชน ข. ตลาดโดยมุ่งที่ส่วนของตลาด
ค. ตลาดที่มุ่งที่ตลาดกลุ่มเล็ก ง. ตลาดท้องถิ่น
48. ลักษณะผู้ใช้ผลิตภัณฑ์มีวัตถุประสงค์ต่อตรายี่ห้อเป็นอย่างมาก เกี่ยวข้องกับข้อใด
ก. โอกาสในการซื้อ ข. ทัศนคติ
ค. ความพร้อม ง. ความซื่อสัตย์
49. กลยุทธ์ในการเลือกเข้าตี เกี่ยวข้องกับข้อใด
ก. กลยุทธ์ตลาดผู้นำ
ข. กลยุทธ์การแข่งขันทางการตลาดของคู่ชิง
ค. กลยุทธ์การแข่งขันทางการตลาดของผู้ตาม
ง. กลยุทธ์การแข่งขันทางการตลาดของธุรกิจรายย่อย
50. การผลิตสินค้าเลียนแบบคู่แข่งขันเป็นกลยุทธ์ที่สามารถสร้างกำไรได้เลียนแบบการจัดจำหน่ายหรือโฆษณา เกี่ยวข้องกับข้อใด
ก. กลยุทธ์ตลาดผู้นำ
ข. กลยุทธ์การแข่งขันทางการตลาดของคู่ชิง
ค. กลยุทธ์การแข่งขันทางการตลาดของผู้ตาม
ง. กลยุทธ์การแข่งขันทางการตลาดของธุรกิจรายย่อย
51. การตามอย่างใกล้ชิดเป็นกลยุทธ์ประเภทใด
ก. กลยุทธ์โจมตีทางอ้อม ข. กลยุทธ์ผู้ตามตลาด
ค. กลยุทธ์ผู้ท้าชิง ง. กลยุทธ์โจมตีทางตรง
52. การซื้อสินค้าเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว เป็นลักษณะของตลาดประเภทใด
ก. ตลาดผูกขาด ข. ตลาดกึ่งแข่งขัน
ค. ตลาดผู้ผลิต ง. ตลาดผู้บริโภค
53. การแบ่งส่วนตลาดตามลักษณะพฤติกรรมคือข้อใด
ก. วัยรุ่น หนุ่มสาว ข. เกลียด ไม่ชอบ ภูมิใจ
ค. เขตหนาว เขตอบอุ่น ง. ซื่อตรง มีระเบียบ
54. ตลาดที่มีผู้ผลิตและผู้จำหน่ายคงเดิมทำการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคสำคัญๆ ได้แก่
ก. ตลาดแข่งขันน้อยรายที่ไม่สมบูรณ์ ข. ตลาดกึ่งผูกขาด
ค. ตลาดแข่งขันน้อยรายสมบูรณ์ ง. ตลาดผูกขาดสมบูรณ์
55. ข้อใดหมายถึงผู้บริโภค
ก. บุคคลที่หาข้อมูลผลิตภัณฑ์ของธุรกิจ
ข. บุคคลที่เห็นโฆษณาผลิตภัณฑ์ของธุรกิจ
ค. บุคคลที่พอใจผลิตภัณฑ์ของธุรกิจ
ง. บุคคลที่ซื้อผลิตภัณฑ์ของธุรกิจ
56. ข้อใดไม่ใช่วิธีการแสวงหาภายนอก
ก. การระลึกความทรงจำ ข. การหาข้อมูลจากโฆษณา
ค. การโทรศัพท์พูดคุยกับร้านค้า ง. การสอบถามจากผู้ที่เคยใช้สินค้า
57. ข้อใดกล่าวถูกเกี่ยวกับการประเมินทางเลือก
ก. การประเมินทางเลือกเกิดขึ้นหลังการแสวงหาข้อมูลแล้ว
ข. นักการตลาดต้องพยายามหามาตรการในการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค
ค. การปรับเปลี่ยนสินค้าให้ตรงกับมาตรการการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคง่ายกว่าการเปลี่ยนมาตรการของผู้บริโภค
ง. กล่าวถูกทุกข้อ
58. ข้อใดเป็นสิ่งกระตุ้นที่ควบคุมไม่ได้
ก. สิ่งกระตุ้นราคา ข. สิ่งกระตุ้นทางเศรษฐกิจ
ค. สิ่งกระตุ้นด้านผลิตภัณฑ์ ง. สิ่งกระตุ้นด้านช่องทางการจัดจำหน่าย
59. เหตุใดนักการตลาดจึงต้องวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้บริโภค
ก. เพื่อรายงานผู้บริหาร
ข. เพื่อให้เป็นไปตามทฤษฎี
ค. เพื่อดูความแตกต่างของมนุษย์
ง. เพื่อจะได้จัดกลยุทธ์สนองความต้องการได้อย่างเหมาะสม
60. การล้วงลึกเข้าไปในความทรงจำเพื่อคิดหาวิธีการแก้ปัญหา หมายถึงข้อใด
ก. การมองเห็นปัญหา ข. การประเมินทางเลือก
ค. การแสวงหาภายใน ง. การแสวงหาภายนอก
61. ข้อใดเป็นองค์ประกอบของผลิตภัณฑ์ที่สามารถสัมผัสได้
ก. ภาพพจน์ ข. บรรจุภัณฑ์
ค. แนวความคิด ง. การให้บริการ
62. สินค้าอุปโภคบริโภคตามข้อใดที่ลูกค้ามีความซื่อสัตย์ต่อตราสินค้า
ก. สินค้าไม่แสวงซื้อ ข. สินค้าเปรียบเทียบซื้อ
ค. สินค้าสะดวกซื้อ ง. สินค้าเจาะจงซื้อ
63. ข้อใดไม่จัดเป็นผู้ใช้อุตสาหกรรม
ก. การซื้อตะปูของผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์
ข. การซื้อแป้งสาลีของโรงงานขนมปัง
ค. การซื้อน้ำตาลทรายของร้านขนมหวาน
ง. การซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ของนักศึกษา
64. ข้อใดจัดกลุ่มได้ถูกต้องตามลักษณะของสายผลิตภัณฑ์ (Product Line)
ก. ผงชูรส เสื้อผ้า แชมพู ข. น้ำตาล กาแฟ คอฟฟี่เมท
ค. หนังสือ ขนมปัง ปากกา ง. โทรศัพท์ ไมโครเวฟ เครื่องซักผ้า
65. ข้อใดจัดเป็นลักษณะของตลาดอุตสาหกรรม
ก. ซื้อครั้งละมากๆ ข. มีผู้ซื้อจำนวนมาก
ค. ซื้อเพื่อใช้ในครอบครัว ง. โรงงานมักตั้งอยู่ใกล้ชุมชน
66. ข้อใดคือความหมายของราคา
ก. มูลค่าของผลิตภัณฑ์ในสายตาผู้บริโภค
ข. คุณค่าของผลิตภัณฑ์ในสายตาผู้บริโภค
ค. มูลค่าของสินค้าและบริการในรูปตัวเงิน
ง. มูลค่าของสินค้าและบริการที่ธุรกิจคำนวณโดยไม่แจ้งลูกค้า
67. ข้อใดไม่ใช่วัตถุประสงค์ในการตั้งราคา
ก. เพื่อการแข่งขัน ข. เพื่อมุ่งกำไร
ค. เพื่อเพิ่มส่วนครองตลาด ง. เพื่อกำหนดคุณค่าของผลิตภัณฑ์
68. ในสายตาของลูกค้า ข้อใดคือราคาที่เหมาะสม
ก. ราคาต้องกำหนดตามคู่แข่งขัน
ข. ราคาต้องกำหนดตามต้นทุน
ค. ราคาต้องกำหนดขึ้นโดยความต้องการซื้อ
ง. ราคาต้องสอดคล้องกับคุณค่าของผลิตภัณฑ์
69. การตั้งราคาโดยถือเกณฑ์ต้นทุนต้องอาศัยสิ่งใดเข้ามาช่วยในการวิเคราะห์
ก. เงินลงทุน ข. ความคิดของผู้บริหาร
ค. รายได้ของกิจการ ง. กำไรของกิจการ
70. การตั้งราคาโดยถือเกณฑ์อุปสงค์ มีความหมายตรงกับข้อใด
ก. การตั้งราคาโดยคำนวณจากต้นทุน
ข. การตั้งราคาโดยมุ่งที่การแข่งขัน
ค. การตั้งราคาโดยดูจากความต้องการของผู้บริโภค
ง. ไม่มีข้อใดถูก
71. Mark up มีความสัมพันธ์กับการตั้งราคาข้อใด
ก. การตั้งราคาโดยถือเกณฑ์อุปสงค์ ข. การตั้งราคาโดยมุ่งเน้นการแข่งขัน
ค. การตั้งราคาโดยถือเกณฑ์ต้นทุน ง. ทุกข้อต้องเกี่ยวข้องกับ Mark up
72. การตั้งราคาสินค้าให้สูงเพื่อแสดงถึงคุณค่าของสินค้าและความมีคุณภาพดีของสินค้าเป็น วัตถุประสงค์ในการกำหนดราคาข้อใด
ก. การสร้างภาพลักษณ์ ข. เพื่อมุ่งด้านสังคม
ค. เพื่อสร้างยอดขาย ง. เพื่อรักษาส่วนครองตลาด
73. กิจการที่เริ่มต้นทำธุรกิจกำหนดราคาสินค้าต่ำเพื่อไม่ให้คู่แข่งขันมาแข่งขันด้วย เป็น วัตถุประสงค์การกำหนดเพื่อการแข่งขันข้อใด
ก. เพื่อเผชิญการแข่งขัน ข. เพื่อหลีกเลี่ยงการแข่งขัน
ค. เพื่อตัดราคาของคู่แข่งขัน ง. ทุกข้อรวมกัน
74. ข้อใดไม่เกี่ยวข้องกับคำว่า “ช่องทางอ้อม”
ก. พ่อค้าส่ง ข. พ่อค้าปลีก
ค. คนกลาง ง. ผู้ผลิตสู่ผู้บริโภค
75. ข้อใดเป็นคนกลางที่มีกรรมสิทธิ์ในสินค้า
ก. นายหน้า ข. พ่อค้าส่ง
ค. ตัวแทนขาย ง. ตัวแทนผู้ผลิต
76. ข้อใดกล่าวผิดเกี่ยวกับหน้าที่ของสถาบันคนกลางในช่องทางการจัดจำหน่าย
ก. คนกลางช่วยผู้ผลิตขายสินค้า
ข. คนกลางช่วยลดรายการติดต่อ
ค. คนกลางเป็นภาระของผู้ค้าปลีก
ง. คนกลางช่วยให้เกิดการประหยัดจากขนาดของการผลิต
77. การกำหนดสินค้าคงเหลือเพื่อที่จะทำการสั่งซื้อ หมายถึงข้อใด
ก. จุดสั่งซื้อ ข. จุดเสียโอกาส
ค. ปริมาณการสั่งซื้อที่ประหยัด ง. ปริมาณการสั่งซื้อที่มีคุณภาพ
78. ข้อใดเป็นค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาสินค้า
ก. ค่าเอกสาร ข. ค่าโทรศัพท์
ค. ค่าประกันภัย ง. ไม่มีข้อใดถูก
79. กิจกรรมที่เกิดขึ้นหลังจากได้รับคำสั่งของลูกค้าแล้วต้องจัดเตรียมใบกำกับสินค้าส่งไปยังแผนกที่เกี่ยวข้องให้จัดเตรียมสินค้าเพื่อส่งสินค้าต่อไป หมายถึงข้อใด
ก. การขนส่ง ข. การคลังสินค้า
ค. การจัดการวัสดุ ง. กระบวนการสั่งซื้อ
80. กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการรับ การเก็บ และการจัดเตรียมสินค้าตามคำสั่งซื้อ หมายถึงข้อใด
ก. การขนส่ง ข. การคลังสินค้า
ค. การจัดการวัสดุ ง. กระบวนการสั่งซื้อ
81. การเคลื่อนย้ายสินค้าจากแหล่งผลิตไปยังแหล่งของลูกค้า หมายถึงข้อใด
ก. การขนส่ง ข. การจัดการวัสดุ
ค. การคลังสินค้า ง. กระบวนการสั่งซื้อ
82. สินค้าที่มีขนาดใหญ่ น้ำหนักมาก ขนส่งระยะไกล ควรเลือกการขนส่งวิธีใด
ก. ทางน้ำ ข. ทางอากาศ
ค. ทางรถไฟ ง. ทางรถบรรทุก
83. การขนส่งทางใดสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมากที่สุด
ก. ทางน้ำ ข. ทางรถไฟ
ค. ทางอากาศ ง. ทางรถบรรทุก
84. Piggy Back เป็นการขนส่งในข้อใด
ก. ทางน้ำร่วมกับทางรถไฟ ข. ทางน้ำร่วมกับทางอากาศ
ค. ทางรถบรรทุกร่วมกับทางน้ำ ง. ทางรถบรรทุกร่วมกับทางรถไฟ
85. การขนส่งทางใด อุปกรณ์การขนส่งไม่ได้เคลื่อนย้ายไปพร้อมสินค้า
ก. ทางท่อ ข. ทางอากาศ
ค. ทางรถบรรทุก ง. ทางรถไฟ
86. ผู้ค้าส่งซื้อสินค้าจากผู้ผลิตไว้จำนวนมาก จากนั้นผู้ค้าปลีกจะมาซื้อสินค้าทีละน้อย เป็นหน้าที่ของผู้ค้าส่งข้อใด
ก. การเงิน ข. ทยอยขาย
ค. การเก็บรักษาสินค้า ง. การรับภาระการเสี่ยงภัย
87. ข้อใดเป็นการขายตรง
ก. ร้านสะดวกซื้อ ข. ผู้ค้าปลีกอิสระ
ค. ร้านขายของลดราคา ง. การขายแบบจัดงานปาร์ตี้
88. ข้อใดเป็นการขายตรง
ก. ร้านสะดวกซื้อ ข. ผู้ค้าปลีกอิสระ
ค. ร้านขายของลดราคา ง. การขายแบบจัดงานปาร์ตี้
89. การขายข้อใดสามารถให้บริการได้ 24 ชั่วโมง และประหยัดแรงงาน
ก. การจัดงานปาร์ตี้ ข. การขายปลีกอิสระ
ค. การขายโดยใช้แค็ตตาล็อก ง. การขายโดยใช้เครื่องจักรอัตโนมัติ
90. วัฏจักรวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ของสินค้า ประกอบด้วยช่วงใดบ้าง
ก. แนะนำ แข่งขัน ปรับปรุง อิ่มตัว ข. แนะนำ แข่งขัน เติบโต อิ่มตัว
ค. แนะนำ เติบโต อิ่มตัว ถดถอย ง. แนะนำ เติบโต ถดถอย ปรับปรุง
91. ข้อใดไม่ใช่ความหมายของการโฆษณา
ก. เป็นการจูงใจ ข. เป็นการโฆษณาชวนเชื่อ
ค. เป็นกิจกรรมสื่อสารมวลชน ง. ซื้อเนื้อที่และเวลาในสื่อมวลชน
92. สื่อโฆษณาในข้อใดที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างที่สุด
ก. นิตยสาร ข. วิทยุโทรทัศน์
ค. โรงภาพยนตร์ ง. วิทยุกระจายเสียง
93. สื่อโฆษณาในข้อใดไม่ควรเขียนบรรยายสรรพคุณรายละเอียดของสินค้าลงในสื่อ
ก. นิตยสาร ข. ไปรษณีย์
ค. หนังสือพิมพ์ ค. ข้างรถประจำทาง
94. สื่อประเภทสิ่งพิมพ์ สื่อใดที่มีอายุสั้นและล้าสมัยเร็ว
ก. คู่มือ ข. วารสาร
ค. หนังสือพิมพ์ ง. ป้ายโปสเตอร์
95. ข้อใดกล่าวถูกต้อง
ก. การโฆษณาให้ผลช้ากว่าการประชาสัมพันธ์
ข. การโฆษณากับการประชาสัมพันธ์มีลักษณะเหมือนกัน
ค. การประชาสัมพันธ์ช่วยสร้างภาพพจน์ที่ดีให้กับกิจการ
ง. การประชาสัมพันธ์เป็นงานที่สิ้นเปลืองงบประมาณและเปล่าประโยชน์
96. ถ้าท่านเป็นนักประชาสัมพันธ์ของบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งกำลังถูกโจมตีในเรื่องความสะอาดของ ผลิตภัณฑ์ ท่านจะมีวิธีการแก้ไขอย่างไร
ก. จัดให้มีการพบปะและการประชาสัมพันธ์
ข. เปิดให้เยี่ยมชมกิจการเพื่อให้เห็นขั้นตอนของการผลิต
ค. จัดให้มีการแสดงนิทรรศการ เพื่อประชาสัมพันธ์องค์กร
ง. จัดสัปดาห์พิเศษเพื่อเผยแพร่ความรู้และข่าวสารด้านต่างๆ
97. ข้อใดไม่ใช่ลักษณะของการส่งเสริมการขาย
ก. ไม่หวังผลทางการค้า ข. การจัดทำขึ้นในระยะสั้น
ค. ช่วยสนับสนุนการขาย ง. เป็นกิจกรรมที่มีข้อเสนอพิเศษ
98. ข้อใดเป็นการส่งเสริมการขายเพื่อให้เกิดการซื้อซ้ำ
ก. ซื้อสบู่ 1 ก้อน แลกคูปอง 1 ใบ
ข. ซื้อเครื่องปรับอากาศวันนี้ ลด 20%
ค. ซองเปล่ามีค่านับล้าน รับส่งชิงโชคด่วน
ง. กาแฟผงชนิดซอง 200 กรัม เพิ่มปริมาณอีก 50 กรัม
99. สินค้าประเภทใดที่เหมาะกับการส่งเสริมการขายโดยใช้หีบห่อส่วนเพิ่มมากที่สุด
ก. น้ำปลา ข. น้ำมันพืช
ค. กาแฟผง ง. นมข้นหวาน
100. การส่งเสริมการขายที่มุ่งสู่ผู้บริโภคเพื่อการกระตุ้นให้ผู้บริโภคซื้อสินค้า จัดได้ว่าเป็นกลยุทธ์ตามข้อใด
ก. กลยุทธ์ดึง ข. กลยุทธ์ดัน
ค. กลยุทธ์ผลัก ง. กลยุทธ์ผสม